ท่าขี้เหล็ก - ศาลเมียนมาพิพากษาแล้ว..152 คนไทยติดร่างแหถูกจับกุมตามปฏิบัติการกวาดล้างบ่อนพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ในท่าขี้เหล็กช่วงต้นปี 67 สั่งจำคุกทั้งฐานหลบหนีเข้าเมือง-การพนัน รวมคนละ 2 ปี
กรณีคนไทยอย่างน้อย 148 คนถูกทางการเมียนมาเข้าจับกุมขณะทำงานในบ่อนพนันออนไลน์ในท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2567 ล่าสุดหลังรอมานานหลายเดือนจนทางญาติพากันข้ามขอไปเยี่ยมเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางศาล จ.ท่าขี้เหล็กได้มีคำพิพากษาตัดสินโทษแล้ว โดยมีคนไทยถูกจับกุมเพิ่มเติมถูกพิพากษาด้วยอีก 4 คน รวมเป็นจำนวน 152 คน เป็นชาย 77 คน หญิง 75 คน
ศาลจังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมา ได้พิพากษาให้จำคุกทั้ง 152 คน เป็นเวลา 2 ปี ส่วนใหญ่ทั้งหมดถูกพิพากษาใน 2 ฐานความผิด คือ หลบหนีเข้าเมือง พิพากษาให้จำคุก 6 เดือน และการพนันพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และเนื่องจากเรือนจำใหญ่อยู่ในเขต จ.เชียงตุง ห่างจากท่าขี้เหล็กไปทางทิศเหนือประมาณ 168 กิโลเมตร ดังนั้นหลังการตัดสินทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำเชียงตุง ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คนไทยทั้งหมดที่ต้องคำพิพากษาครั้งนี้มีอายุอยู่ในวัยทำงานประมาณ 20-30 ปี ถูกจับหลังพากันข้ามไปทำงานใน จ.ท่าขี้เหล็ก อย่างคึกคัก ทั้งกะกลางวัน และกะกลางคืน โดยจะจอดรถจักรยานยนต์ฝากไว้ในฝั่ง อ.แม่สาย เมื่อไปทำงานในบ่อนการพนันออนไลน์ก็มีรายได้ดีหลายหมื่นบาทต่อเดือน
กระทั่งทางการประเทศจีนได้รับผลกระทบจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงได้แจ้งเขตปกครองต่างๆ ในประเทศเมียนมาให้ช่วยปราบปราม เช่น เขตปกครองพิเศษที่ 1 (โกกั้ง) เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) จ.ท่าขี้เหล็ก หรือแม้แต่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำของ สปป.ลาว ฯลฯ โดยในท่าขี้เหล็กถือโอกาสปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์ไปด้วยจึงมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดรวมกันกว่า 700 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทยจำนวน 152 คนดังกล่าว ที่เหลือเป็นชาวจีน และเมียนมา
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการทลายบ่อนการพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างหนักในท่าขี้เหล็ก แต่ปัจจุบันบ่อนการพนันก็ได้กลับมาเปิดเหมือนเดิมโดยมีนายทุนจากประเทศที่อยู่ใกล้กันเข้าไปลงทุน เพราะการปราบปรามที่ผ่านมามุ่งเป้าไปที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ของกลุ่มจีนเทา หลังจากถูกปราบอย่างหนักแล้วก็ไม่ได้เน้นเรื่องการปราบปรามบ่อนการพนันอีก
