ศรีสะเกษ- เปิดชีวิตไม่ธรรมดา...“น้องฟ่าง-ธีรพงศ์” นักยกลูกเหล็กฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 ชาวขุนหาญ ศรีสะเกษ เผย “น้องฟ่าง”คลอดก่อนกำหนดเป็นเด็กตัวเล็กและผอม แม่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ต้องอาศัยอยู่กับย่ากับความฝันสูงสุดอยากมีบ้านและฝากความหวังทั้งชีวิตไว้กับการมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมยกลูกเหล็ก ขณะอาผู้ผลักดันจนประสบความสำเร็จคว้าเหรียญโอลิมปิกตามใฝ่ฝัน เผยวันนี้ภาคภูมิใจส่งหลานถึงฝั่งแล้ว
วันนี้ ( 9 ส.ค.67) จากกรณีที่ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ “น้องฟ่าง” อายุ 21 ปี นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ชาวจังหวัดศรีสะเกษ คว้าเหรียญเงินในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 หรือ ปารีสเกมส์ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย โดยยกท่าสแนตช์ รวม 132 กิโลกรัม (กก.) ก่อนต่อด้วย คลีน แอนด์ เจิร์ก ที่ผ่านฉลุยทั้ง 3 ครั้ง 171 กก. รวมทั้งสิ้น 303 กก. นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไป บ้านเลขที่ 108 หมู่ 1 บ้านกระเบาเดื่อ ตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ได้พบกับ นางสาว เกษร ศรีสังข์ อายุ 39 ปี เป็นอาที่คอยดูแล น้องข้าวฟ่าง หรือ น้องฟ่าง มาตั้งแต่เด็ก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แม่ของน้องข้าวฟ่าง เสียชีวิตตั้งแต่น้องข้าวฟ่างอายุได้ 2 ขวบ ตอนนั้นพ่อแม่น้องข้าวฟ่าง ทำงานอยู่ที่จ.ชลบุรี คุณพ่อจึงได้เอา น้องข้าวฟ่าง มาฝากไว้ให้คุณย่าเลี้ยงที่บ้านคุณย่า น้องข้าวฟ่าง มีพี่ชาย 1 คน ชื่อ “น้องข้าวโพด” อายุ 22 ปี โดย น้องข้าวฟ่าง ได้คลอดก่อนกำหนด ทำให้น้องข้าวฟ่าง จะเป็นคนตัวเล็กๆ ผอมๆ
ทั้งนี้ครอบครัว น้องข้าวฟ่าง ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองจึงเป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กถ้าน้องประสบความสำเร็จในชีวิตน้องจะสร้างบ้านให้คุณพ่อและตัวเอง เพราะตอนนี้บ้านที่ น้องข้าวฟ่าง และพ่อ อาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านของปู่ย่า อาศัยอยู่กันหลายครอบครัว ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้น้องข้าวฟ่างมีความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมเพื่อให้ได้เหรียญรางวัล และได้เงินรางวัล มาสร้างบ้านให้กับคุณพ่อจะได้มีบ้านเป็นของตัวเอง
การคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ ในครั้งนี้ทำให้ชีวิตครอบครัวน้องข้าวฟ่างเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพราะเป็นความหวังที่ทางครอบครัวหวังมาตลอด เหรียญโอลิมปิกเป็นความหวังความใฝ่ฝันที่น้องข้าวฟ่างอยากได้มาโดยตลอดและพยายามฝึกซ้อมจนประสบความสำเร็จในวันนี้
นางสาวเกสร กล่าวต่อว่า วันที่น้องข้าวฟ่างฮึดสู้ที่สุด คือวันที่ย่าน้องข้าวฟ่างเสียชีวิต น้องข้าวฟ่างไปกราบศพคุณย่าและร้องไห้พูดต่อหน้าศพย่าว่าผมจะทำให้ดีที่สุดและทำให้ย่าภูมิใจ ในส่วนของการเล่นกีฬายกน้ำหนักทางครอบครัวเป็นห่วงเพราะบางครั้งน้องข้าวฟ่างจะแชทมาบอกตนว่าผมท้อ ผมบาดเจ็บผมต้องไปหาหมอและทำกายภาพ ตนก็ได้แต่คิดว่าสิ่งที่เขาเลือกสิ่งที่เขาทำมันคงดีที่สุดแล้วเพราะเขาทำคนเดียวไม่ต้องโฟกัสที่คนอื่น เขาคงจะพยายามทำให้ดีที่สุดด้วยตัวเขาเอง
นอกจากกีฬายกน้ำหนักแล้วน้องข้าวฟ่างยังชอบเล่นกีฬาฟุตบอล เคยไปแข่งขันได้เหรียญรางวัลมาก็มาก แต่โอลิมปิกเกมส์ เป็นสิ่งสูงสุดในชีวิตแล้วสำหรับนักกีฬา ซึ่งถ้าถามตน นั้น คิดว่า ตอนนี้ ส่งน้องฟ่าง ถึงฝั่งแล้ว ในฐานะคนที่ค่อยผลักดัน หนุนหลัง และให้กำลังใจเขามาตลอด ให้สู้เต็มที่ ซึ่งในวันนี้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ส่งน้องฟ่าง ถึงฝั่งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีแชทที่อาได้คุยกับ น้องข้าวฟ่าง ก่อนลงสนามยกน้ำหนักชิงเหรียญ โดย อาได้ส่งข้อความให้กำลังใจ “สู้ครับอาเป็นกำลังใจให้” น้องข้าวฟ่าง ตอบกลับว่า “ขอบคุณครับ เต็มที่คับ” ก่อนที่น้องข้าวฟ่างจะส่งรูปโรงอาหารที่ปารีสให้คุณอาดู