นครสวรรค์ - ตำรวจตามจับแล้ว..สาวประเภทสอง อ้างแค้นเรื่องเงิน ฆ่าแล้วเผาอำพรางศพ เพื่อน นศ.มหาวิทยาลัยดังคาหอพักย่านประชาชื่น ชิงโทรศัพท์คนตายขาย-เผ่นขึ้นภูทับเบิก ก่อนนั่งรถกลับบ้านเกิดพยุหะคีรีไปหาปู่กับย่าที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
กรณี นายวิศว หรือซัน อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังย่านคลองประปา ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต ก่อนใช้ผ้าห่มพันแล้วจุดไฟเผาอำพรางศพ ภายในห้องพักของหอพักแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี
เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นสาวประเภทสอง นำกระเป๋าเป้แบบสะพายไปวางทิ้งไว้ที่สถานีกลางรถไฟบางซื่อ ก่อนจะนั่งรถมาลงแถวซอยชินเขต ทุ่งสองห้อง แล้วลงมือขโมยรถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายเผลอเสียบกุญแจทิ้งไว้ ขี่มาก่อเหตุที่หอพัก จากนั้นจึงใช้เป็นพาหนะหลบหนีกลับไปที่สถานีกลางรถไฟบางซื่ออีก
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (8 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ได้รับการประสานจากตำรวจภูธรภาค 1 ว่าผู้ก่อเหตุคดีอุฉกรรจ์ฆ่าแล้วเผาที่จังหวัดนนทบุรีได้หนีเข้าพื้นที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงวางกำลังเข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ 19/3 หมู่ 7 ต.นิคมเขาบ่อแก้ว ทราบชื่อผู้ต้องหาต่อมา คือ นายณัฐวุฒิ อ้นโต หรือนัท อายุ 21 ปี อยู่ในชุดเสื้อสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีดำ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยังโรงพัก โดยมีปู่และย่าของผู้ต้องหาเดินทางมาดูแลอย่างใกล้ชิด
จากการสอบถามย่าของนายณัฐวุฒิ เบื้องต้นทราบว่า นายณัฐวุฒิ หลานชายได้นั่งรถทัวร์กลับมาหาปู่ย่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าก่อนหน้านั้นหลานได้ไปก่อเหตุอะไร ทราบแต่เพียงว่าก่อนจะมาได้เดินทางไปภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ แล้วนั่งรถทัวร์กลับมาเยี่ยมปู่ย่าที่บ้าน จนกระทั่งถูกตำรวจบุกจับ และพอทราบเรื่องก็ตกใจมาก
หลานชายคนนี้เขาอยู่กับปู่ย่ามาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่ของเขาแยกทางกัน จึงทำให้เป็นเด็กเก็บกด พูดน้อย มีปัญหาอะไรก็ไม่เคยมาเล่าให้ฟัง และที่ผ่านมาสมัยเรียนอยู่ระดับ ปวช.หลานก็เคยจะกินยาฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องที่เขาไปก่อเหตุฆ่าเพื่อนยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องเลย และไม่เคยคิดว่าเป็นหลานชายด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยอมรับสารภาพต่อตำรวจแล้วว่า..เขาเป็นคนทำ
ทั้งนี้ มีข้อมูลด้วยว่าการสอบปากคำนายณัฐวุฒินั้น เจ้าตัวยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายวิศวจริงเพราะโกรธแค้นเรื่องเงิน ซึ่งหลังจากลงมือฆ่านายวิศวเสียชีวิตแล้วนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขาย ได้เงินมา 7 พันบาท จึงเดินทางไปที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนจะกลับมาหาปู่กับย่าที่บ้านเกิด อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จนกระทั่งถูกจับกุมตัว
ล่าสุดเจ้าตัวยังคงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ที่เดินทางมาสมทบ ร่วมสอบปากคำหาสาเหตุแรงจูงใจ รวมถึงรายละเอียดในการก่อเหตุ ก่อนจะมีการนำตัวไปดำเนินคดียังท้องที่ที่เกิดเหตุต่อไป
