ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เจ้าของปลากระชังในลำน้ำพองรายใหญ่ต้องเฝ้าระวังตรวจสอบกระชังปลาใกล้ชิด หลังเขื่อนอุบลรัตน์จะเพิ่มการระบายน้ำไม่เกินวันละ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร หวั่นปลาช็อกตาย เสี่ยงขาดทุนเพราะเลี้ยงมากถึง 170 กระชัง ร้องขออย่าปล่อยน้ำลงมาปริมาณเยอะๆ คราวเดียว
มีรายงานว่าในห้วงนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังบ้านนาเพียง ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น ต้องหมั่นเดินตรวจสอบสภาพกระชังปลา หลังจากระดับน้ำในลำน้ำพองเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์ได้ระบายน้ำวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรติดต่อกันมาได้กว่า 1 สัปดาห์ ประกอบกับมีน้ำจากลำห้วยสาขาจากลำน้ำพองไหลลงสู่ลำน้ำพอง ทำให้น้ำมีระดับสูง ทั้งยังมีเศษท่อนไม้ที่ไหลมาตามน้ำ จึงต้องคอยสำรวจและเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้กระชังปลาได้รับความเสียหาย
นายธวัชชัย บุญใบ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 บ้านนาเพียง ม.4 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของกระชังปลา 170 กระชังที่เลี้ยงในลำน้ำพอง บอกว่า เลี้ยงปลาในกระชังมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 จนถึงปัจจุบัน โดยในรอบของการเลี้ยงปลาในกระชังนั้นจะอนุบาลลูกปลา 2 เดือน จากนั้นก็นำลงกระชังเลี้ยงต่ออีก 4 เดือนจึงจับขึ้นมาขาย โดยใน 1 ปีจะเลี้ยง 3 รอบ เลี้ยงทั้งปลานิลและปลาทับทิม ส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด เมื่อเลี้ยงครบ 4 เดือนจะจับส่งขาย ได้น้ำหนักปลาประมาณ 50 ตัน
ปลานิลจะส่งขายในราคากิโลกรัมละ 65 บาท ปลาทับทิมส่งขายกิโลกรัมละ 85 บาท ขณะนี้เลี้ยงปลา 2 ชนิดรวมทั้งหมด 170 กระชัง ให้อาหารวันละ 50 กระสอบ ซื้ออาหารปลามากระสอบละ 650-750 บาท
ตั้งแต่เลี้ยงปลาในกระชังมาไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือจากรัฐบาล ทั้งที่การทำกระชังปลาในลำน้ำพองก็ได้ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า การเลี้ยงปลาในกระชังก็ขออนุญาตจากกรมประมง และสำนักงานประมงจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อย มีบางครั้งที่เจ้าหน้าที่ประมงมาแจ้งเรื่องวิกฤตน้ำในลำน้ำพอง เพราะบางทีช่วงหน้าแล้งน้ำน้อย เขื่อนไม่ระบายน้ำ น้ำพองก็อาจจะวิกฤตได้ ก็จะต้องเก็บกู้กระชังขึ้นจากน้ำ
นายธวัชชัยบอกว่า ในฐานะเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แม้ภาครัฐไม่ช่วยเหลือเรื่องอื่น ก็อยากขอความเห็นใจ ขอให้ดูแลคนเลี้ยงปลาบ้าง ปล่อยน้ำออกก็ขอให้ทยอยปล่อย อย่าเร่งปล่อยออกมาเยอะคราวเดียว เพราะหน้าแล้งลำน้ำพองจะไม่มีน้ำ เพราะเคยมีปัญหาขาดน้ำมาแล้ว มันจะเกิดผลกระทบต่อคนเลี้ยงปลา อยากให้พิจารณาช่วยเหลือประชาชนในทุกๆกลุ่มอย่างรอบคอบ
“เมื่อเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบจากฝนฟ้าอากาศทำให้ปลาตาย จนปลาขาดตลาด เพราะปลาที่จับขึ้นมาได้จับได้เพียง 1-2 ตันเท่านั้น ไม่พอต่อความต้องการของลูกค้า ขณะนี้ปลาที่เลี้ยงไว้กำลังปรับตัวกับสภาพน้ำ กำลังไปได้ด้วยดี ก็จะต้องประสบปัญหากับการที่ทางจังหวัดขอนแก่นกำหนดปล่อยน้ำจากเขื่อนออกมามาก พวกเราก็วิตกว่าปลาจะช็อกและตายซ้ำอีก” นายธวัชชัยกล่าว