xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ลำปางได้! ส่อง “ฟาร์มหอยสีทอง” 3 พี่น้องเพาะมา 2 ปี ออเดอร์ล้นจนเลี้ยงไม่ทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ตามส่องอีกหนึ่งอาชีพน่าสนใจ..สามพี่น้องทำเกษตรหลังเกษียณโดนหลอกสูญนับสิบล้านแทบสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ไม่ท้อ สุดท้ายเจอ “หอยสีทอง” ทั้งเลี้ยงง่ายทุนต่ำ-ราคาดี ทำมา 2 ปีไม่พอจำหน่าย บอกมือใหม่เริ่มแค่ 10 คู่-ดันเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ของลำปางได้


“ไร่เด่นดีหลวง” ม.8 ต.บ้านกิ่ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นสวนของ 3 พี่น้อง คือ ลุงจ่อย ป้าต้อย และป้าติ๋ม ที่เกษียณอายุราชการแล้วก็อยากทำการเกษตร แต่ด้วยความไม่รู้เรื่องและชำนาญในเรื่องการเกษตรจึงลองผิดลองถูก และถูกนักวิชาการอิสระกลุ่มหนึ่งมาชักชวนและหลอกให้ลงทุนทำการเกษตรไปหลายอย่างก่อนหน้านี้จนต้องสูญเงินเก็บไปกว่า 10 ล้านบาท แทบสิ้นเนื้อประดาตัว แต่วันนี้..กำลังกลายเป็นแหล่งเพาะเลี้ยง-จำหน่ายสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ของลำปาง

เพราะแม้จะสูญเงินเก็บแทบทั้งหมดดังกล่าว ทั้งสามพี่น้องก็ยังไม่ลดละในเรื่องการทำการเกษตร จนกระทั่งเริ่มตั้งหลักได้ ก็พบ-ศึกษา และทดลองเลี้ยง “หอยสีทอง” ซึ่งเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายมาก ต้นทุนต่ำ และขายได้ราคาดี ซึ่งปัจจุบันได้เพาะเลี้ยงมาจนย่างเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว เฉพาะจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็มีคนจองซื้อไว้ล่วงหน้า เนื่องจากหอยโตไม่ทันต่อความต้องการ ขณะที่การจำหน่ายเพื่อรับประทานก็ไม่เพียงพอเช่นกัน

ล่าสุด ลุงจ่อย หรือลุงสมเชรษฐ์ อุดมวงศ์ และ ป้าติ๋ม ได้พาไปดูบริเวณที่เลี้ยงหอยสีทอง ซึ่งเป็นการเลี้ยงในสระบัวแบบธรรมชาติและแบบอินทรีย์ 100% มีการแยกเป็นกระชังสำหรับอนุบาลหอย และ กระชังสำหรับการเลี้ยง โดยกระชังอนุบาลหอยจะสามารถนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เลี้ยงได้หลายพันตัว อนุบาลประมาณ 2 เดือน เมื่อไข่ออกเป็นตัวก็จะแยกลูกหอยออกไปยังกระชังเลี้ยง ส่วนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ยังเลี้ยงไว้ในกระชังเดิม

หลังจากนำลูกหอยแยกออกไปเลี้ยงในกระชังเลี้ยง ระหว่างเลี้ยงอาหารที่ให้กับหอยก็ง่ายๆ เน้นไปที่แหนแดง ซึ่งทางสวนก็จะเลี้ยงแหนแดงเอง ที่เหลือก็จะเป็นพวกผัก เปลือกผลไม้ทุกชนิดที่หาได้ ซึ่งหอยจะเป็นสัตว์ที่กินพืช และการเลี้ยงแบบอินทรีย์จะใช้เวลานานกว่าปกติ คือ ประมาณ 6 เดือน แต่หากเลี้ยงแบบใช้อาหารก็จะโตเร็วแต่รสชาติอาจจะไม่ค่อยอร่อย


เมื่อครบ 6 เดือนก็จะสังเกตเห็นได้ว่า หอยตัวจะใหญ่เปลือกจะเริ่มเป็นสีเหลืองทอง ก็ให้แยกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออกเพื่อจำหน่าย โดยทางสวนจำหน่ายให้กับผู้สนใจนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพเพียงคู่ละ 30 บาท ซึ่งแนะนำว่าเริ่มต้นสำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงเป็นอาชีพให้ซื้อไปเพียง 10 คู่เท่านั้น เลี้ยงในกระชังขนาด 1.5x2.5 เมตร หรือเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ได้ น้ำก่อนนำมาเลี้ยงต้องพักเพื่อให้คลอรีนเจือจางสัก 3-4 วัน แต่ต้องเน้นทำความสะอาดบ่อทุกๆ 5-10 วัน เพราะหอยจะชอบน้ำที่สะอาด

สำหรับหอยสีทองจะมีเนื้อเยอะ แน่น หวาน กรอบ ทานแล้วจะรู้สึกหนึบหนับแต่ไม่เหนียวคล้ายๆ กับเนื้อปลาหมึก จึงสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัดฉ่าหอยสีทอง ส้มตำหอยสีทอง ลวกปิ้งย่างจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟูด แกงแคหอยสีทอง ฯลฯ

ลุงจ่อยบอกว่า จากที่เลี้ยงหอยมาร่วม 2 ปี ก็พบว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายมาก ต้นทุนต่ำ ใช้เวลาดูแลน้อย อาหารหลักๆ ก็คือแหนแดง เสริมด้วยผักไชยา เปลือกผักผลไม้ทุกชนิด ให้เช้า เย็น หรือเวลาว่าง เพราะหอยกินได้ทั้งวัน ไม่พบโรคหรือสัตว์รบกวน และการเลี้ยงในสระน้ำธรรมชาติทำให้หอยเติบโตดี รสชาติอร่อย


ขณะที่การจำหน่าย เน้นจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์คู่ละ 30 บาท ซึ่งมีการสั่งจองล่วงหน้าไว้แล้ว 600 คู่ ยังไม่พร้อมส่ง ส่วนการจำหน่ายเพื่อนำไปทำเมนูรับประทาน ราคากิโลกรัมละ 200 บาท จากปกติ 250 บาท แต่ต้องสั่งจองเหมือนกัน เพราะหอยมีจำนวนไม่เพียงพอ

ขณะนี้เตรียมขยายพื้นที่เลี้ยงเพิ่มจากปัจจุบันมีกว่า 20 กระชัง จะขยายในแหล่งน้ำภายในสวนเพิ่มอีกให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เพราะช่องทางการตลาดยังมีอีกมากอยากผลักดันให้หอยสีทองเป็นสัตว์เศรษฐกิจของจังหวัดลำปาง เพราะเกษตรกรที่ต้องการเลี้ยงไม่จำเป็นต้องมีทุนสูงก็เลี้ยงและขยายพันธุ์เองได้ หากเกษตรกรที่สนใจอยากมาศึกษาก่อนซื้อไปเลี้ยง สามารถโทร.สอบถามหรือสั่งจองได้ที่ลุงจ่อย 06-5926-7123


กำลังโหลดความคิดเห็น