อุทัยธานี/นครสวรรค์ - ชาวสวนดอกมะลิยิ้ม..ดอกผลิสะพรั่งรับวันแม่ความต้องการเพิ่ม เร่งแต่งกิ่ง-ใส่ปุ๋ย-พ่นยาฆ่าแมลง บางรายกางมุ้งครอบกันแมลง-บังคับออกดอกดก หวังเก็บดอกให้ได้มากที่สุดตั้งแต่ 7-12 สิงหาฯ คาดปีนี้ราคาพุ่งหลายเท่าตัว
ใกล้เทศกาลวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2567 เกษตรกรชาวสวนมะลิในพื้นที่หมู่ 1 ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ต่างลงดูแลสวนตัวเองอย่างดี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนมักจะมีศัตรูพืชทั้งหนอน-แมลงกัดกินดอก เสี่ยงเสียหาย บางรายวางแผนป้องกันศัตรูพืชดังกล่าวล่วงหน้าด้วยการกางมุ้งให้กับต้นมะลิทั้งสวน ซึ่งเป็นการบังคับให้ต้นมะลิออกดอกดกรับช่วงเทศกาลวันแม่ที่จะถึงนี้
นางสนอง สำราญ อายุ 64 ปี เจ้าของสวนมะลิ เปิดเผยว่า ตนทำสวนดอกมะลิมานานกว่า 20 ปี บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษเท่านั้น โดยปลูกดอกมะลิเป็นอาชีพมีสวนติดอยู่กับบ้านจะเก็บขายได้ทุกวัน ซึ่งมะลิชอบฤดูร้อนจะออกดอกมาก วันหนึ่งจะเก็บขายได้กว่า 10-12 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 200-250 บาท มีรายได้ทุกวัน
ช่วงฤดูฝนกับฤดูหนาว ดอกมะลิจะออกดอกน้อย เนื่องจากจะมีปัญหาศัตรูพืชทั้งหนอนและแมลงกัดกินดอกได้รับความเสียหาย แต่ตนได้ป้องกันด้วยการกางมุ้งให้กับต้นดอกมะลิเกือบทั้งสวน ซึ่งจะบังคับให้ดอกมะลิออกดอกดกได้เพื่อรับเทศกาลวันแม่ที่จะถึงนี้ ซึ่งดอกมะลิที่จะเก็บขายช่วงเทศกาลวันแม่ก็จะเริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 7-8 สิงหาคมเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2567
อย่างไรก็ตาม ดอกมะลิปกติในช่วงหน้าฝนราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-250 บาท แต่พอเข้าสู่ช่วงใกล้วันแม่-ความต้องการเพิ่มสูง ราคาจะขยับขึ้นอย่างน้อยกิโลกรัมละ 500-600 บาท ซึ่งเป็นที่น่าพอใจแล้ว แม้ว่ากลไกตลาดจะดันขึ้นเกินกว่ากิโลกรัมละกว่า 1,000 บาทก็ตาม
ขณะที่นายใกล้รุ่ง เสือสิงห์ หนึ่งในเกษตรกรชาวสวนมะลิ ต.บ้านมะเกลือ เมืองนครสวรรค์ กล่าวว่า ช่วงนี้ต้องเตรียมพร้อมและบำรุงต้นมะลิให้มีความสมบูรณ์เต็มที่ ทั้งตกแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย และฉีดพ่นสารเคมีต่างๆ เพื่อให้ต้นมะลิออกดอกทันตามกำหนดในช่วงวันที่ 8-11 สิงหาคม 2567 ซึ่งในช่วงดังกล่าวของทุกปีดอกมะลิจะมีราคาพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 1-2 พันบาท และถ้าหากเกษตรกรคนใดทำมะลิออกดอกได้ในช่วงนี้ก็จะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเดิมอีกหลายเท่าตัว
