หนุ่มราชบุรีเข้าแจ้งความถูกนายจ้างปล่อยเงินกู้อุ้มไปซ้อม

ราชบุรี - หนุ่มราชบุรีเข้าแจ้งความถูกนายจ้างปล่อยเงินกู้อุ้มไปซ้อมทำร้ายร่างกาย พร้อมถ่ายคลิปลงโซเชียลประจาน ผู้ต้องหาเผยเด็กมันติดยา ถ้าไม่ผิดตนไม่ทำ

วันนี้ (6 ส.ค.) จากกรณีที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น ได้ลงโพสต์กรณีวัยรุ่นชาย 2 คน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มีพฤติกรรมเย้ยกฎหมายอุ้มไปซ้อม พร้อมถ่ายคลิปลงสื่อโซเชียล มีการทำร้ายร่างกายถีบเข้าที่ลำตัว ใบหน้า และมีการใช้ไม้คมแฝกตีไปที่ตามตัว และบริเวณอื่นๆ จนทำให้หนึ่งในวัยรุ่นสองคนนั้นต้องเข้าโรงพยาบาลไปรักษาตัว เนื่องจากกระดูกปลายนิ้วแตก เมื่อแม่ทราบข่าวจึงได้ส่งข้อมูลเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือมาทางเพจ

แต่ทางฝั่งผู้เสียหายเกรงกลัวต่ออิทธิพลเนื่องจากกลุ่มชายเหล่านี้มีพฤติกรรมนักเลงในพื้นที่บ้านโป่ง จนคนในพื้นที่เกิดหวาดกลัวและพูดเป็นเสียเดียวกันว่าชอบอุ้มคนไปซ้อม จึงได้ร้องขอให้ช่วยเหลือเพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูก เนื่องจากยังถูกคุกคามต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มชายเหล่านั้นที่ สภ.บ้านโป่ง

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ สภ.บ้านโป่ง เพื่อพูดคุยกับผู้เสียหาย และแม่ของผู้เสียหาย โดยมีนายเพ็ญเพชร สำเนียงสูง ผู้ก่อตั้งเพจ เพชร พูดแล้วทำ เป็นผู้ประสานงานในครั้งนี้ ซึ่งทางผู้เสียหายคือนาย อ้อ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนได้ไปตรวจร่างกายมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดี นายเก็ต นายกอล์ฟ และภรรยาของนายเก็ต

นายอ้อ กล่าวว่า ตนได้ไปเก็บเงินดอกเงินกู้ให้เจ้านาย แต่ได้เอาเงิน 200 ไปใช้ก่อน ซึ่งลูกค้าได้โทร.บอกนายจ้างว่า ได้ส่งเงินไปให้แล้ว พอเข้าบ้านไปโดนกระทำตามที่เห็นในคลิป ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ที่ผ่านมาโดนต่อยโดนเตะมาบ้าง โดยได้เงินค่าจ้างในการตามเงินให้นายจ้าง วันละ 300 บาท เบี้ยเลี้ยง 80 บาท ซึ่งถ้าเก็บเงินให้ไม่ได้จะโดนทำร้าย ซึ่งในแต่ละวันตนจะวนไปเก็บให้ประมาณ 40 คน รวมยอดประมาณ 13,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยนำเงินไปหมุนอยู่บ่อยแต่สามารถหามาให้ได้ทันตลอด

แต่ในครั้งนี้ลูกค่าโทร.มาแจ้งเจ้านายก่อน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.67 หลังจากนั้นประมาณ 3 วัน ตนไปทำงานต่อได้ประมาณ 1 อาทิตย์ จึงได้ลาออกมา ส่วนเหตุที่ตัดสินใจออกเพราะรู้สึกทนไม่ไหวเกรงว่าถ้าทำต่อจะโดนอีกอยู่ดี

ด้านนางบี (นามสมมติ) แม่ผู้เสียหายกล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยถูกขู่ทางโทรศัพท์ว่าขับรถให้ระวังนะ ซึ่งตนไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนมารู้ตอนที่ลูกเข้าโรงพยาบาล กับเงินแค่ 200 บาท ทำไมจะต้องตีกันรุนแรงแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วลูกโดนแบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่เคยบอก หลังจากเข้าโรงพยาบาลและออกมาพักได้ 3 วัน ให้กลับไปทำงาน จนลูกตัดสินใจไม่ไปทำงานก็ให้คนมาตาม ตนเลยบอกลูกว่าไม่ให้ไปแล้ว ทำงานกับคนแบบนี้ไม่ให้ไป ถ้าไปก็โดนอีก

ต่อมา นายเก็ต นายกอล์ฟ และภรรยา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ เสือรอด รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้เข้าร่วมสอบสวนผู้ต้องหาในครั้งนี้ด้วย

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ ว่าได้มีการทำร้ายร่างกายจริง จึงได้แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายในข้อหาทำร้ายร่างกายจนอาการสาหัส เรียกดอกเบื้ยเกินอัตรา ประกอบธุรกิจเงินกู้ ก่อนจะทำการปล่อยตัวชั่วคราว และได้นัดให้มารายงานตัวพรุ่งนี้ 9 โมง ก่อนจะส่งศาลฝากขังต่อไป

ในช่วงที่นายเก็ต ผู้ต้องหากำลังเดินไปห้องพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าทำไปทำไม นายเก็ต ตอบกลับมาว่า ถ้าน้องไม่ผิดผมไม่ทำ เนื่องจากมีปัญหากับพี่ของตนจึงเข้าไปช่วยพี่ พร้อมทั้งขอโทษที่ทำรุนแรงไปตนไม่ได้ตั้งใจ ส่วนอีก 2 คนนั้นคือหลานของตน ส่วนเรื่องที่ว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพลนั้นไม่เป็นความจริง ถ้ามีอิทธิพลตนอยู่ไม่ได้ และไม่มีการรู้จักตำรวจในพื้นที่ ในส่วนของเงินกู้นั้นตนไม่รู้เป็นเรืองของพี่ ตนทำอาชีพเลี้ยงไก่ชน

ส่วนนายกอล์ฟกล่าวว่า ผู้เสียหายติดยา และถ้าไม่ผิดตนไม่ทำ เคยตักเตือนมาเป็นสิบรอบแล้ว