ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระยอง-จันทบุรีเปิดปฏิบัติการกำจัดปลาหมอคางดำ หลังพบการแพร่ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติมากขึ้น ป้องกันการแพร่ระบาดรุนแรง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (2 ส.ค.) น.ส.สลารีวรรณ ทัพทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัด และนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ประมง จิตอาสา รวมทั้งกลุ่มประมงในพื้นที่กว่า 30 คน นำอวนจับปลาลงล้อมจับปลาหมอคางดำ ที่ปากอ่าวเพ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเพ ต.เพ อ.เมืองระยอง ภายใต้ปฏิบัติการกำจัดปลาหมอคางดำทั้งจังหวัดให้หมดไป
โดยสามารถจับปลาหมอคางดำได้ประมาณ 100 กิโลกรัม โดยจะนำไปมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ต่อไป
น.ส.สลารีวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ จ.ระยอง ว่าแม้จะยังไม่รุนแรงมากนัก แต่เพื่อเป็นการหยุดยั้งการแพร่พันธุ์จนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศสัตว์นำชนิดอื่นๆ จึงจำเป็นต้องเร่งกำจัดปลาหมอคางดำ ด้วยการนำไปแปรรูปให้เกิดประโยชน์
ขณะที่ นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในเขต อ.แกลง และ อ.เมืองระยอง ส่วน อ.บ้านฉาง ยังอยู่ในขั้นของการป้องกันการแพร่พันธุ์ ซึ่งทางประมงจังหวัดได้เปิดปฏิบัติการจับทุกวันจนสามารถจับมากถึงวันละ 100 กิโลกรัม
นอกจากนั้น สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จ.ระยอง ยังได้ช่วยรับซื้อปลาหมอคางดำในราคากิโลกรัมละ 15 บาท เพื่อนำไปใช้ทำประโยชน์ต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ปลาหมอคางดำที่จับได้จะถูกนำไปทำปุ๋ย และยังจะมีการปล่อยปลากะพง ซึ่งเป็นพันธุ์ปลานักล่า เพื่อกำจัดการแพร่พันธุ์อย่างต่อเนื่อง
kick off จันทบุรีโมเดล เปิดยุทธการการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ
เช่นเดียวกับเครือข่ายวุฒิอาสาธนาคารคลังสมองจังหวัดจันทบุรี และเครือข่ายภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ “kick off จันทบุรีโมเดล เปิดยุทธการการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ”
หลังพบการระบาดและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในแหล่งน้ำธรรมชาติ จนส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศในแหล่งน้ำ สร้างความเดือดร้อนต่อเกษตรกร ผู้เพาะพันธุ์สัตว์น้ำและชาวประมงในหลายจังหวัด
รวมถึงจันทบุรี พบว่ามีการแพร่ระบาดของประหมอดำอย่างรุนแรงที่ลุ่มน้ำพังราด ต.ช้างข้าม อ.นายายอาม และอ่าวคุ้งกระเบน ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จนต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วม