เชียงใหม่ – ของกลางทั้งยาบ้า-ไอซ์ เรียงเป็นตับ..ตร.ภาค 5-ทหาร-ป.ป.ส.ภาค 5-ฝ่ายปกครอง โชว์จับยานรก 2 ล็อตใหญ่ ทั้งตามรวบคู่หูชาวสุไหงโก-ลก/ยะหา ขนยาบ้า 300,000 เม็ด เต็ม 2 กระเป๋าโหลดจ่อขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่ อีกรายเป็นแก๊งนักบินชาวพิจิตร-แพร่ ลอบขนไอซ์ 2 ซุกช่องลับใต้พื้นกระบะจากเชียงรายส่งสุพรรณฯ
บ่ายวันนี้(2 ส.ค.) พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนฝ่ายทหาร นบ.ยส.35 ฝ่ายปกครอง สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม การลักลอบขนยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จำนวน 2 คดี
คดีที่ 1 เมื่อ 28 ก.ค. เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสัมภาระภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่ เอกซเรย์พบสิ่งของวัตถุต้องสงสัยภายในกระเป๋าสัมภาระ จำนวน 2 ใบ ที่นายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา โหลดขึ้นเครื่อง จึงจะทำการเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้งสอง คือ นายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา ได้หลบหนีออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่
เจ้าหน้าที่เปิดกระเป๋าตรวจสอบ พบยาบ้า รวมจำนวน 300,000 เม็ด โดยซุกซ่อนในกระเป๋าใบแรก จำนวน 100,000 เม็ด และกระเป๋าใบที่ 2 จำนวน 200,000 เม็ด จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมาได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลออกหมายจับนายธีรัตน์ ภูมิลำเนา อยู่ อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส และ นายเปาซี ภูมิลำเนา อ.ยะหา จ.ยะลา และติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ด่านตรวจความมั่นคงบ้านพละ อ.ประทิว จ.ชุมพร ขณะโดยสารรถกลับพื้นที่ภาคใต้ เมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 2 เมื่อประมาณปลายเดือน ก.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มลำเลียงยาเสพติดได้ดัดแปลงพื้นกระบะรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง - จ.สุพรรณบุรี / จ.นครปฐม โดยมีรถยนต์นำสำรวจเส้นทาง จึงได้ทำการสืบสวนและประสานการปฏิบัติกับ ชปส.ภ.จว.เชียงราย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กระทั่ง 31 ก.ค.67 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชปส.ภ.จว.เชียงราย และกก.สส.ภ.จว. เชียงใหม่ ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถยนต์ของขบวนการลำเลียงยาเสพติด อยู่ภายในโรงแรม ข้างถนนพหลโยธิน ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จึงสะกดรอยติดตาม
ต่อมาเวลาประมาณ 09.20 น.ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ได้ออกจากโรงแรมฯ มุ่งหน้าไปตามถนนบายพาสสนามบินเชียงราย ไปพบกับรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง สีฟ้า ที่บริเวณที่จอดรออยู่บริเวณถนนบายพาส และทั้งสองคันได้ขับตามกันไป มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และหลุดการติดตาม จึงวางกำลังรายทางเพื่อสังเกตุการณ์
จนถึงเวลาประมาณ 13.40 น. ของวันเดียวกัน พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวขับนำรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง มาจากทางเส้นทาง อ.เชียงแสน มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองเชียงราย ระยะห่างประมาณ 1 - 2 กม. จึงสะกดรอยติดตาม และตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณด่านตรวจจำบอน ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย เพื่อทำการตรวจสอบรถยนต์ทั้งสองคัน
แต่เมื่อรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ขับมาใกล้จะถึงด่านตรวจจำบอน ได้จอดบริเวณไหล่ทาง คนขับรถกระบะใช้โทรศัพท์อยู่ภายในรถฯ ส่วนรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง ขับเข้าไปจอดหน้าห้องพัก A11 ในโรงแรม พื้นที่บ้านป่าแหย่ง ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมรถยนต์ทั้งสองคันไว้ และพบนายณัฐวัฒน์ ภูมิลำเนา อ.สามง่าม จ.พิจิตร และ น.ส.ธุรดา ภูมิลำเนา อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ อยู่บริเวณรถยนต์บรรทุกสี่ล้อกลาง และพบไอซ์ จำนวน 150 กก. ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับใต้พื้นกระบะรถ ซึ่งดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว พบนายสุภชัย ภูมิลำเนา อ.วังชิ้น จ.แพร่ เป็นคนขับ รับว่าร่วมกันลำเลียงยาเสพติด ทำหน้าที่นำทางดูการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบสวนขยายผลพบว่ากลุ่มผู้ต้องหารับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อกลางเดือน ก.ค.2567 จากพื้นที่ จ.เชียงราย ไปส่งยังพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีผู้สั่งการ ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายมาดำนเนินคดีตามกฎหมายต่อไป