ฉะเชิงเทรา - แม่ค้าเมืองแปดริ้ว-สมุทรปราการสับเละดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยแบบมีเงื่อนไขไม่ให้ดีกว่า รู้ทันนะให้ชาวบ้านเอาวอลเล็ตไปซื้อของนายทุนรายใหญ่ บอกถ้าจะให้ประชาชนอยู่รอดจริงต้องแจกเงินสดใช้หนี้ได้ ซ้ำคนแก่ลงทะเบียนไม่เป็น ยุ่งยาก โทรศัพท์ไม่รองรับไม่มีเงินซื้อใหม่ ไม่มีประโยชน์
ภายหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อเข้ารับการพิจารณาสิทธิในการเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเเล็ต 10,000 บาท ในวันที่ 1 ส.ค.2567 เป็นวันแรก และจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย.2567 นั้น
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ของชาวบ้านใน จ.ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน พบว่า ชาวบ้านเกือบทุกคนยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องการลงทะเบียนที่ยุ่งยาก และไม่ประสบผลสำเร็จ พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาลในลักษณะเดียวกันว่าเหตุใดจึงไม่แจกเงินสดที่ใช้จ่ายง่ายและตรงจุดมากกว่า
โดย นางต๋อย ชมภูศรี อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บอกว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลกำลังเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับตนเพราะไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก และจากการติดตามข่าวสารทางโทรทัศน์ทราบเพียงว่า ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตามทะเบียนบ้านจะต้องย้ายชื่อไปอยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดที่ตนเองอาศัยอยู่ และหากไม่ไปย้ายต้องกลับไปใช้เงินตามภูมิลำเนาที่ระบุในบัตรประชาชน
ส่วนเรื่องการเปิดให้ลงทะเบียนยังไม่รู้เงื่อนไขว่าจะเอาไปใช้อะไรได้บ้าง และต้องรอให้บุตรชายมาทำให้เพราะแค่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนตนยังใช้ไม่เป็น ซ้ำสามีเป็นผู้ป่วยติดเตียง
เช่นเดียวกับ นายบุญนำ รอดทุกข์ อายุ 73 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.สองคลอง บอกว่าตนไม่ค่อยรู้รายละเอียดเรื่องที่รัฐบาลแจกเงินวอลเล็ต 1 หมื่นบาท และต้องรอให้บุตรสาวมาลงทะเบียนให้เช่นกัน และหากได้เงินดังกล่าวจริงคงเอาไปแลกข้าว น้ำปลา หอมกระเทียม และกับข้าวจากร้านธงฟ้าในหมู่บ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าร้านค้าในหมู่บ้านจะรับแลกหรือไม่
ด้าน นางธัญพร อินทรวงษ์ อายุ 64 ปี ชาว ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ แม่ค้าขายปลาเค็มแดดเดียวริมถนนสุขุมวิทสายเก่า (สาย 3) พื้นที่ตะเข็บรอยต่อระหว่าง ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ บอกว่าจากเดิมที่เคยอยากได้เงินดังกล่าว แต่ขณะนี้ไม่อยากได้แล้วเพราะเงินที่รัฐบาลให้ไม่ตรงกับเป้าหมายที่ต้องการจะนำไปใช้
"เหมือนถูกบังคับให้เราเอาเงินที่เขาให้ต้องนำไปใช้จ่ายซื้อแต่ของในห้าง แล้วตนจะทำอย่างไรเพราะตนซื้อปลามาทำขาย ตนอยากจะได้เป็นเงินสดออกมาแล้วเอามาต่อยอดนำไปซื้อของมาขาย หากเป็นเงินก้อนยังพอได้นำมาหมุนเวียนพยุงเงินที่จมลงไปกับการลงทุนให้คล่องตัวมากขึ้น และแม้แต่คนอื่นๆ ต่างอยากได้เงินสดเพื่อนำมาซื้อสิ่งของได้จากร้านค้านอกห้าง เงินใครก็อยากได้เพราะเราอยากนำเงินมาใช้หนี้บ้าง และรากหญ้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นหนี้กันทั้งนั้น เพราะค่าน้ำค่าไฟแพงขึ้น ของก็แพงขึ้น"
แม่ค้าขายปลาสลิดยังบอกอีกว่าเงินของรัฐบาลแม้แต่จะแบ่งให้ลูกหลานนำไปซื้อขนมกินก็ยังทำไม่ได้ อีกทั้งโทรศัพท์ของตนเป็นรุ่นเก่าไม่สามารถที่จะโหลดแอปพลิเคชันใหม่ๆ ได้
"เมื่อวานให้ลูกสาวทดลองทำดูแล้วแต่ทำให้ไม่ได้ และยังไม่มีทุนที่จะไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ ถ้าจะให้แล้วขอเป็นเงินสดดีกว่า เพราะคนแก่ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่กับบ้าน และหากคิดจะให้ประชาชนอยู่รอดกันจริงๆ ให้เป็นเงินสดเลย ให้แบบนี้มันอยู่รอดกันได้ไม่จริงแค่เอาเงินวอลเล็ตมาให้เราเพื่อเอาไปซื้อของให้พวกนายทุนอยู่รอด ไม่ใช่เราอยู่รอด" นางธัญพร กล่าว