ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชื่นชม 2 ฮีโร่ทหารเรือสัตหีบ โดดน้ำช่วยชีวิตสาวอุซเบกิสถานหนีตายจากภัยสังคม ตำรวจสัตหีบรอให้หายจากอาการหวาดกลัวก่อนทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หลังให้การไม่ตรงกับผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็น จนท.กู้ภัย ที่ระบุว่านั่งซ้อนท้าย จยย.ชายไทยก่อนกระโดดลงจากรถวิ่งหนีเข้าเขตทหาร
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ส.ค.) พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับการประสานจาก เรือเอกปราโมท แสงทวี นายทหารเวร กรมสรรพาวุธทหารเรือ ว่าพลทหารในสังกัดได้ให้ช่วยเหลือหญิงสาวชาวต่างชาติซึ่งถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บจมอยู่ในหนองน้ำสวนเกษตรครอบครัวพอเพียง ริมถนนสุขุมวิท ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
หลังรับแจ้งจึงวิทยุสั่งการให้ พ.ต.ต.ชัยวัฒน์ เนมีย์ สวป.สภ.สัตหีบ ร่วมกับชุดสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และเจ้าหน้าที่ทหารเรือ เดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ
โดยพบ พลฯ ปิยะพงศ์ ยอดมณี อายุ 21 ปี และพลฯ พงศ์พิสุทธิ์ สินสันเทียะ อายุ 22 ปี ทหารซึ่งทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในสวนเกษตรครอบครัวพอเพียง ที่ให้การช่วยเหลือหญิงสาวชาวต่างชาติจนรอดจากการจมน้ำ
จากการสอบถามหญิงสาวคนดังกล่าวทราบชื่อคือ MISS SITORA SANJAROVNA MURODOVA อายุ 18 ปี ชาวอุซเบกิสถานซึ่งถือหนังสือเดินทางประเภทวีซ่า นักท่องเที่ยว (60 วัน) และได้เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยในวันที่ 17 ส.ค.นี้
และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณใบหน้า ดั้งจมูก และแขนเกิดการบอบช้ำ ส่วนตามร่างกายมีบาดแผลหลายแห่ง นอกจากนั้น บนทางเท้าทางเข้าจุดเกิดเหตุยังมีหยดเลือดกระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นของผู้ใด
ขณะที่ MISS SITORA ให้การว่าขณะกำลังเดินอยู่บนฟุตปาธริมถนนสุขุมวิทเพื่อไปตลาดสัตหีบ ได้ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คนไม่ทราบอายุ ลักษณะสันทัดเดินตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ จนต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดและยังได้ตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำในเขตพื้นที่ทหารเรือ ก่อนจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย กระโดดน้ำลงมาช่วยชีวิตไว้ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป
ด้าน นายประสาน แช่มทอง อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสัตหีบ นามเรียกขาน 452 ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่บนถนนสุขุมวิท หน้าหมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ได้เห็นชายอายุประมาณ 50 ปี รูปร่างผอมสูง สวมเสื้อยีนส์ กางเกงยีนส์ขายาว และสวมหมวกกันน็อก ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 สีบรอนซ์เทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งมีหญิงสาวชาวต่างชาติซ้อนท้ายมาด้วย
และยังเห็นว่าหญิงสาวคนดังกล่าวพยายามที่จะกระโดดลงจากรถหลายครั้ง แต่คนขี่รถจักรยานยนต์ยังไม่ยอมจอดรถ กระทั่งหญิงต่างชาติได้ตัดสินใจกระโดดลงจากรถจนหน้าคว่ำไปกับพื้นถนน เมื่อสอบถามคนขี่รถจักรยานยนต์อ้างว่า จะพาหญิงสาวรายนี้ไปทำธุระที่เมืองพัทยา
"แต่เมื่อสอบถามว่าชายคนนั้นกับสาวชาวต่างชาติรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ ฝ่ายชายกลับอ้ำอึ้ง จึงบอกว่า จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ ฝ่ายชายจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางพัทยา ส่วนฝ่ายหญิงที่ยังอยู่ในอาการตกใจได้วิ่งหนีข้ามถนนไปอีกฟาก จนทราบข่าวว่าได้กระโดดน้ำหนีไปอยู่ในเขตทหารเรือ" ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลเขตอุดมศักดิ์ ได้ให้การปฐมพยาบาลคนเจ็บก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 ก่อนจะนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ ทำการสอบสวนหาสาเหตุ เนื่องจากคำให้การระหว่างฝ่ายผู้เสียหายและผู้ที่เห็นยังไม่สอดคล้องกัน
อีกทั้งผู้เสียหายยังไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริง และยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ซึ่งตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะทำการสอบสวนหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด
ส่วน 2 พลทหารที่ได้เสี่ยงชีวิตกระโดดน้ำลงไปให้การช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้ เผยว่าขณะกำลังตรวจตราพื้นที่ได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือมาจากในน้ำ พลฯ ปิยะพงศ์ จึงกระโดดน้ำลงไปช่วยเหลือในทันที
ขณะที่ พลฯ พงศ์พิสุทธิ์ ได้ช่วยดึงตัวขึ้นบนฝั่ง และรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความกล้าหาญและเป็นแบบอย่างที่ดี