แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ ยันยังไม่พบผู้หนีสงครามรัฐฉานเหนือข้ามแดนเข้าพื้นที่ หลังสาวไทใหญ่แพร่คลิปรวมกลุ่มออกจากเมืองล่าเสี้ยวมุ่งหน้าเข้าหัวเมืองลางเคอติดพรมแดน หวังเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน
วันนี้ (31 ก.ค.) นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรณีมีการปรากฏข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าชาวไทใหญ่ จากเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน (เหนือ) ชื่อนางจ๋ามคำ ได้ลงคลิปวิดีโอการเดินทางตั้งแต่ล่าเสี้ยว ถึงหมู่บ้านนากง ตรงข้ามบ้านหัวเมือง อ.ลางเคอ จ.ลางเคอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โดยมีเนื้อหาระบุว่า..ตนและพวก จำนวน 46 คน ได้หลบหนีภัยสงครามในเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน (เหนือ) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีเป้าหมายจะเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านบ้านหัวเมือง จังหวัดลางเคอ รัฐฉาน เพื่อเข้ามายังอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 วันนั้น
เบื้องต้นจากการตรวจข้อเท็จจริงของหน่วยความมั่นคงพบว่าบริเวณพื้นที่ที่ชาวเมืองล่าเสี้ยว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา อพยพหนีภัยลงมา ได้แก่ เมืองนาย ตองยี ดอยแหลม เมืองหมอกใหม่ และลางเคอ แต่มีจำนวนไม่มาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่สามารถทำการเกษตรได้ และทางกองกำลังชนกลุ่มน้อยได้เตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว ในจังหวัดลางเคอ จำนวน 4 แห่ง
ส่วนกรณีที่ปรากฏข่าวสารว่าจะมีผู้อพยพหลบหนีภัยสงครามในเมืองล่าเสี้ยว เดินทางผ่านเข้ามาในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นั้น หากผ่านเข้ามาต้องถือเป็นการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ฯ มากกว่า แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีการอพยพของชาวเมืองล่าเสี้ยวเข้าพื้นที่แม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 6/2567 นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ซึ่งปัจจุบันการสู้รบในเมืองล่าเสี้ยว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมายังไม่มีความรุนแรงมากนัก ประกอบกับเมืองล่าเสี้ยวอยู่ห่างจากพื้นที่ชายแดนไทย ประมาณ 860 กิโลเมตร จึงคาดการณ์ว่ายังไม่มีผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมาอพยพเข้ามาในประเทศไทยในเวลาอันใกล้นี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนได้สั่งการให้ดำเนินการ ตามแนวทางที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำหนดเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบไว้ โดยให้เตรียมความพร้อมในการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อรองรับผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ตามพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน หากเกิดกรณีนี้ขึ้นจริง โดยมิให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติของประชาชนชาวไทย