ลำปาง - ตำรวจห้างฉัตรยันชงคดีรถพ่วงลอบขนขยะข้ามถิ่นจากเชียงใหม่ทิ้งลำปางฟ้องศาลแล้ว อัยการสั่งไม่ขอริบรถบรรทุกของกลาง จึงต้องส่งคืนตามกฎหมาย
กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้างฉัตร และตำรวจ สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้จับกุมคนขับ-ตรวจยึดรถบรรทุกพร้อมพ่วงที่บรรทุกขยะมาเต็มคัน เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 22 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่าไม่มีใบอนุญาตให้ขนย้ายขยะเข้ามาในพื้นที่
เอกสารที่ติดรถกลับเป็นใบส่งของที่ระบุต้นทางคือ อบจ.ลำปาง ปลายทาง บริษัทปูนซิเมนต์ลำปาง เพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบระหว่างที่เคลื่อนย้ายขยะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำปางแล้วเท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับความจริงที่มีการขนขยะข้ามถิ่นจากเชียงใหม่ทิ้งลำปาง
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาขนย้ายขยะโดยไม่ได้รับอนุญาตและยึดรถของกลางเพื่อส่งดำเนินคดี โดยได้นำรถบรรทุกขยะจอดไว้บริเวณข้างถนนหน้า สภ.ห้างฉัตร แต่ต่อมารถบรรทุกคันดังกล่าวก็หายไปจากจุดจอดหน้าสถานีตำรวจ ทั้งที่เป็นรถของกลางในคดีนั้น
ล่าสุด สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้เผยแพร่ใบแถลงข่าว เรื่อง "รถพ่วงของกลาง คดีขนขยะข้ามถิ่นลำปางหาย ตร.อ้างอัยการสั่งไม่ริบ" ระบุเนื้อหาว่ารถบรรทุกสิบล้อ บรรทุกขยะที่ตรวจยึดไว้ที่ สภ.ห้างฉัตร หายไปนั้น พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร ขอชี้แจงว่า ตามที่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 67 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร ร่วมกันตรวจยึด รถยนต์บรรทุกสิบล้อ บรรทุกขยะจากต่างพื้นที่เข้ามาในท้องที่ห้างฉัตร โดยผู้ขับขี่ให้การว่ามาจากจังหวัดเชียงใหม่ และส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตรดำเนินการตามกฎหมาย
พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตรได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง สาธารณสุขอำเภอห้างฉัตร อุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง พนักงานฝ่ายปกครอง ตรวจสอบรถบรรทุกดังกล่าวปรากฏว่าเป็นขยะเปียกทั่วไป ซึ่งไม่ใช่ขยะที่เป็นสารพิษ ตรวจสอบใบอนุญาตเก็บ ขน และกำจัดขยะมูลฝอย ปรากฏว่าไม่มีใบอนุญาต จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ขับขี่ทราบว่าประกอบกิจการ เก็บ ขน กำจัดขยะมูลฝอย เพื่อธุรกิจหรือเพื่อรับผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
ซึ่งผู้ขับขี่ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร จึงได้นำผู้ขับขี่ส่งฟ้องต่อศาลแขวงลำปาง ในวันที่ 24 ก.ค. 67 เพื่อให้รับโทษตามกฎหมาย และพนักงานอัยการไม่ขอริบรถบรรทุกดังกล่าว และแจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร จึงไม่มีอำนาจยึดรถดังกล่าวไว้ได้อีกต่อไป จึงต้องคืนให้กับเจ้าของไปในวันที่ 25 ก.ค. 67 ส่วนขยะ ได้ให้เอกชนที่มีใบอนุญาตกำจัดให้ถูกต้อง จึงชี้แจงว่า สภ.ห้างฉัตรได้มีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว