ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รอดนอนคุก! ศาลโคราชให้ประกันตัวสองผัวเมียนายจ้างโหดเฆี่ยนตีทารุณหนุ่มลูกจ้างเยี่ยงทาส ในวงเงิน 320,000 บาท ตำรวจเตรียมย้ายหนุ่มลูกจ้างไปอยู่ที่ปลอดภัยพร้อมจัดกำลังคุ้มกัน รวมทั้งดูแลแม่ของเหยื่อด้วยหวั่นถูกคุกคาม ชี้นายจ้างเป็นผู้มีอิทธิพล ล่าสุดหมอตรวจพบเหยื่อแก้วหูแตก 1 ข้าง
วันนี้ (29 ก.ค. 67) จากกรณีที่มีพลเมืองดี แจ้งเพจ “กัน จอมพลัง” ให้เข้าช่วยเหลือ “ลุงก้อง” ลูกจ้าง ซึ่งถูกนายจ้างตัวแทนขายเครื่องครัวรายหนึ่ง อยู่ที่ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ทำร้ายร่างกายโดยการใช้สายแก๊สเฆี่ยนตีและใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตร่างกายอย่างทารุณเยี่ยงทาส จนเป็นแผลฉกรรจ์ทั่วทั้งร่างกาย สาเหตุจากลูกจ้างขายสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง พร้อมทีมงาน ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ โดยพาลูกจ้างเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โนนไทย พร้อมกับลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนายจ้างที่ก่อเหตุ อยู่ในหมู่บ้านโคกสวาย หมู่ที่ 4 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ปรากฏว่านายจ้างดังกล่าวไม่อยู่บ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาจะเข้าไปตรวจค้นบ้านดังกล่าว และบุกจับกุมตัวผู้ก่อเหตุสองสามีภรรยา ซึ่งเป็นนายจ้าง พร้อมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์ และเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาได้นำตัวทั้งคู่ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา และคัดค้านการประกันตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ เพจเฟซบุ๊ก “กันจอมพลัง ช่วยสู้” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ด่วน ตำรวจขอคัดค้านประกันตัว 2 ผัวเมียนายจ้าง แต่ศาลให้ประกันตัว 2 คนแล้วในวงเงิน 320,000 บาท ตอนนี้ตำรวจเตรียมย้ายลุงก้องไปอยู่ในที่ปลอดภัย จัดกำลังคุ้มกันและผมประสานตำรวจดูแลแม่ลุงก้องแล้ว” โดยมีชาวโซเชียลฯ เข้าไปแสดงความคิดเห็น รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของลุงก้อง และแห่ให้กำลังใจลุงก้องเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ยังได้อัปเดตอาการลุงก้องว่า ภายหลังจากที่ได้เข้าไปเยี่ยมลุงก้องที่โรงพยาบาล แพทย์แจ้งว่าตรวจพบแก้วหูแตก 1 ข้าง จึงทำให้ลุงก้องไม่ค่อยได้ยิน และได้ต่อสายให้ลุงก้องคุยกับครอบครัว ซึ่งพี่สาวเมื่อได้ยินเสียงลุงก้องถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่ลุงก้องปลอดภัย โดยลุงก้องบอกว่าอยากจะกลับไปหาแม่และใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่ จ.น่าน แต่ขณะนี้เนื่องจากนายจ้างสองผัวเมียเป็นผู้มีอิทธิพล และเพิ่งจะได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี กลัวว่าอาจถูกคุกคามได้ จึงต้องประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด