ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยา เข้าแจ้งความตำรวจแสนสุข ให้ดำเนินคดีเจ้าของสายสื่อสารและผู้ทำสายสื่อสารขาดบนถนนสายเลี่ยงตลาดหนองมน-ชลบุรี หลังถูกสายสื่อสารรัดคอหวิดขาด จยย.ล้มได้รับบาดเจ็บหลายจุด ค่ารักษาพยาบาลหลายหมื่นบาทไร้คนรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (26 ก.ค.) นายนภัสกร วรกัณห์ อายุ 39 ปี ผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นทิพย์มณีเคเบิลทีวี พัทยา ได้นำหลักฐานใบรับรองทางการแพทย์ และภาพถ่ายสภาพร่างกายที่ได้บาดเจ็บจากการถูกสายสื่อสารเกี่ยวขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านจนทำให้รถเสียหลักล้ม และเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี ช่วงคืนวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยได้นำหลักฐานการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข เพื่อให้ช่วยตามตัวเจ้าของสายสื่อสารมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยา เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีน้ำเงิน หมายทะเบียน 4 กค 5455 ชลบุรี ออกจากเขตบางแสนเพื่อเดินทางกลับบ้านใน อ.ศรีราชา โดยใช้เส้นทางบายพาสเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี และเมื่อขี่รถมาถึงจุดเกิดเหตุได้ถูกสายสื่อสารที่ห้อยลงมาเกี่ยวคอจนทำให้รถล้มและได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดหรือเจ้าของสายสื่อสารออกมาแสดงความรับผิดชอบ
“หลังถูกสายสื่อสารพันคอและกระชากร่างตกจากรถจนได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่มีพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาเข้ามาช่วยแกะสายที่รัดคออยู่ออกเพราะขณะนั้นรู้สึกว่าถูกรัดคอจนแน่นและหายใจไม่ออก และยังโชคดีที่สายสื่อสารมีวัสดุหุ้มไว้ไม่เช่นนั้นคอคงขาด จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาล”
นายนภัสกร ผู้ประกาศข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยากล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเห็นว่ามีคนงานที่กำลังช่วยกันทำพื้นถนนอยู่ และมีคนงานรายหนึ่งเดินมาบอกว่าสายสื่อสารที่ขาดห้อยลงมาเกิดจากรถบรรทุกที่วิ่งมาเกี่ยวสายจนขาด ส่วนเจ้าของสายสื่อสารน่าจะเป็นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
ส่วนการเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ทำให้สายสื่อสารขาด และเจ้าของสายสื่อสารในวันนี้ เพื่อต้องการให้เข้ามารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนนอกจากจะได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายจุดแล้ว ยังต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 คืน เสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท อีกทั้งรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย
เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาตัวผู้มารับผิดชอบต่อไป
