มหาสารคาม-จังหวัดมหาสารคาม เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมอาหารกลุ่มจังหวัด ร้อยแก่นสารสินธุ์ โชว์ศักยภาพSoft Powerด้านอาหาร ที่แต่ละจังหวัดนำอาหารจานเด็ดที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นวัตถุดิบหลักมาปรุงรสให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง ชวนนักชิม นักกิน ร่วมงาน กระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนโดยงานจัด2รอบช่วงต้นเดือนและกลางเดือน ส.ค.นี้
ที่ลานหน้าอุทยานการเรียนรู้ อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นายศิริวัฒน์ พินิจพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนางภควัลรัตน์ มณีสร้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกันแถลงข่าว “งานมหกรรมอาหาร ร้อยแก่นสารสินธุ์” คัดสรรร้านอาหาร ใน 4 กลุ่มจังหวัด ร้อยแก่นสารสินธุ์ กว่า 160 ร้านที่ขึ้นชื่อมาร่วมออกร้านจำหน่ายอาหารดี รสชาติเด็ด สำหรับกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ประกอบด้วย จ.ร้อยเอ็ด จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม และ จ.กาฬสินธุ์
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามได้ชื่อว่าเป็นสะดือแห่งอีสาน เพราะตั้งอยู่ที่จุดกึ่งกลางของภาคอีสาน มีสถาบันการศึกษาครบทุกระดับ ทำให้ได้รับวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลาย ซึ่งอาหารพื้นถิ่น ถือเป็น Soft Power ที่จะดึงดูดและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว รวมถึงคอนเทนท์บล็อกเกอร์ต่าง ๆ เดินทางทางเยี่ยมยาม มาชม มาชิม สัมผัสรสชาติของอาหาร เป็นการกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
ภายในงานแถลงข่าว ได้มีการนำอาหาร ขนม เครื่องดื่ม จากร้านเด็ดที่ได้รับคัดสรรมาเป็นตัวอย่างให้ได้ลิ้มลองกัน จังหวัดละ 10 ร้าน รวม 40 ร้าน มีทั้งอาหารอีสาน อาหารฟิวชั่น และเครื่องดื่มต่าง ๆ อาทิ ยำปลาวาฬ ปลาทอดภูเขาไฟ ปลาเนื้ออ่อนทอดสมุนไพร ลาบเนื้อไทย-วากิวเห็ดเผาะ ซั๊วไก่ ข้าวเหนียวมูลทุเรียนเขาวง
รวมถึงเครื่องดื่มค็อกเทล ที่มีชื่อแนวอีสานว่า ค็อกเทล “ตำบักหุ่ง” เป็นการนำน้ำมะเขือเทศ มาผสมกับมะนาว พริก ไซรัสสูตรพิเศษ ออกแนวตำบักหุ่ง ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน สกายเวเดอร์ คอฟฟี่ แอนด์ แกลลอรี่ ร้านอยู่ที่หอโหวด จ.ร้อยเอ็ด เป็นค็อกเทลที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งนอกจากเมนู ตำบักหุ่งแล้ว ก็ยังมี แจ่วบักขาม ก้อยบักนาว บายบักม่วง และต้มแซ่บ ซึ่งเป็นเมนูเครื่องดื่มที่เรียกได้ว่า ใครไปเที่ยวที่หอโหวด จ.ร้อยเอ็ด ต้องไม่พลาดที่จะไปชิม
ส่วนเมนูชูโรงของ จ.มหาสารคาม ก็คือ “ส้มตำมันแกว” ซึ่งมันแกวที่นำมาใช้ จะเป็น “มันแกวบรบือ” เป็นสินค้า GI ของจังหวัดมหาสารคาม มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ซึ่งมากจากร้าน Folk Coffee ตั้งอยู่ที่อำเภอกันทรวิชัย โดยทางเจ้าของร้าน บอกว่าจังหวัดให้คิดเมนูที่นำวัตถุดิบของมหาสารคาม มาทำเป็นอาหาร อีกทั้งทางร้านอยากสนับสนุนชุมชน เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจของเรายั่งยืน ให้ชุมชนมีส่วนร่วม เลยนำมันแกว มาประกอบอาหารเป็นส้มตำมันแกว โดยรสชาติของส้มตำมันแกว ลักษณะพิเศษของมันแกว ก็จะมีรสชาติหวาน มีแทคแจอร์เวลาเคี้ยว หั่นมันแกวเป็นชิ้น ๆ ดูแล้วก็จะคล้าย ๆ ยอดมะพร้าว เมื่อหั่นเสร็จแล้วก็จะนำไปแช่เย็น เพื่อให้คงความกรอบ
“ตอนตำก็ไม่โขลก แม่ครัวตำเครื่องเสร็จแล้ว ก็จะนำมันแกวลงไปคลุก หรือทางภาษาอีสานเรียกว่า โค่-เล่ เพื่อไม่ให้มันแกวมีน้ำออกมา สามารถทำได้ทั้งแบบตำไทย และตำลาว บอกเลยว่าอยากให้ลองชิม ทั้งสองแบบ”
บรรยากาศงานแถลงข่าวก็เหมือนกับการแถลงข่าวในโรงแรมสุดหรู ประดับไฟสวยงาม โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ มีการรังสรรค์เมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ที่ขึ้นชื่อของ 4 จังหวัด มาประกอบเป็นเมนูอาหารฟิวชั่นสุดหรู โดยเชฟจากัวร์ เชฟชื่อดังจากรายการ “Top Chef Thailand Season 2” ในสไตล์ Fine Dinnig ภายใต้แนวคิด “จาก Local สู่ เลอค่า” ประกอบด้วย จานเรียกน้ำย่อย ส้มตำปลาร้า ข้าวเหนียวไก่ย่าง และลาบ ในรูปลักษณ์หน้าตาที่แตกต่าง ซุปครีมแกงอ่อมอีสาน ส่วนเมนคอร์สหรือจานหลักที่ใช้เนื้อสัตว์ขึ้นชื่อของ 4 จังหวัด ในชื่อ ซุปเปอร์สตาร์อีสาน ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างไอศครีมปลาร้าหน้าตาอินเตอร์
โดยงานมหกรรมอาหาร “ร้อยแก่นสารสินธุ์” จะจัดขึ้น 2 ครั้งในเดือนสิงหาคม คือ ครั้งแรกวันที่ 1 - 5 สิงหาคม 2567 ที่ จังหวัดมหาสารคาม บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งพิเศษจะมีกิจกรรมเก๋ๆ อย่าง วิ่งไปกินไป ในชื่อ “แซ่บ หลาย รัน” ด้วย และครั้งที่ 2 วันที่ 14 - 18 สิงหาคม 2567 ที่บริเวณหอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด ก็ไปเที่ยวไปอิ่มอร่อยกันได้ มีการสาธิตการทำอาหารพื้นบ้านจากกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ กว่า 40 เมนู ซึ่งนอกจากอาหารแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมความบันเทิง ทั้ง คอนเสิร์ตของจากศิลปินชื่อดัง และการแสดงทางวัฒนธรรมอีสานอีกด้วย
