xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ปชช.นักท่องเที่ยวไทย-เทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุรินทร์ - ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมงาน ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ พระสงฆ์ สามเณร 36 รูปนั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้าง 36 เชือก เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา

วันนี้ ( 20 ก.ค.67 ) เวลา 07.30 น. ที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์บนหลังช้างแห่งเดียวในโลก มีพระสงฆ์ 36 รูปนั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 36 เชือก เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2567



ประเพณีการทำบุญตักบาตรบนหลังช้างของจังหวัดสุรินทร์ ถือว่าเป็นแห่งเดียวในโลก เป็นกิจกรรมสำคัญจัดขึ้นในส่วนของงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างประจำปี 2567 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ รับผิดชอบในการจัดขึ้น โดยพระสงฆ์และสามเณรได้ขึ้นนั่งบนหลังช้าง เข้ารับสิ่งของเครื่องไทยทาน ข้าวสาร อาหารแห้ง โดยมีการนำอัฒจันทร์ เหล็ก ตั้งโดยรอบบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง เพื่อให้ช้างนำพระสงฆ์ที่นั่งอยู่บนหลังเดินรับบิณฑบาต ข้าวสาร อาหารแห้ง จากผู้พุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญใส่บาตร


โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างตื่นตาตื่นใจกับการได้ทำบุญ และได้บริจาคเงินทำบุญกับช้างซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ และ สัตว์มงคล ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาช้านานด้วย โดยพุทธศาสนิกชนแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมหรือแต่งกายชุดผ้าพื้นเมืองของจังหวัดสุรินทร์ พากันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล รับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา


ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้จัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างขึ้น และเป็นงานประจำปี ที่มีความสำคัญอีกงานหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม จัดมาต่อเนื่อง เป็นปีที่ 15 แล้วเพื่อ ให้คงอยู่สืบไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ในการเผยแพร่งานให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ


















กำลังโหลดความคิดเห็น