xs
xsm
sm
md
lg

อธิบดีกรมอุทยานฯสั่งตรวจสอบทุกสวนเสือ หลังชุดพญาเสือจับแก๊งลอบค้าเสือโคร่งได้ที่ จ.สุรินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อธิบดีกรมอุทยานสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกสวนเสือ ในทุกพื้นที่ หลังชุดพญาเสือ จับกุมขบวนการการลักลอบค้าเสือโคร่งได้ที่ จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางลูกเสือโคร่ง งาข้าง มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000,000 บาท

วันนี้ (16 ก.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายชัยวัฒน์ ลิ้นลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ที่ปรึกษาชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษพิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ร่วมกับนายพนัสกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพญาเสือ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอุบลฯ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ สัตวแพทย์กรมอุทยาน ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม ร่วมปฏิบัติภารกิจจับกุมกลุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

สืบเนื่องจากนายชัยวัฒน์ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี รอง ผกก.สส.สภ.ดม. ว่าในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มีการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อซื้อขายสัตว์ป่ากับกลุ่มผู้ค้า โดยได้นัดหมายซื้อขายลูกเสือโคร่ง จำนวน 6 ตัว และงาช้าง ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ที่วงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือจึงได้วางแผนและกระจายกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดักซุ่มจับกุมผู้กระทำผิด

ซึ่งมีหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติภารกิจประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม อ.บัวเชด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ชุดปฏิบัติการข่าว ประจำจังหวัดสุรินทร์ กระทั่งเวลาประมาณ 18.50 น. สายลับผู้ติดต่อซื้อขายสัตว์ป่าได้ขับรถยนต์ไปจอดยังจุดนัดพบทึ่วงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์

ต่อมา เวลาประมาณ 18.55 น. พบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถเก๋งสีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดรถหลังรถยนต์สายลับ และมีการโทร.แจ้งยืนยัน สายลับจึงได้ลงมาตรวจเช็กของ เมื่อพบว่ามีของจริงสายลับจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม พบผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ภายในรถเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ทราบชื่อ 1.นายกรฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี 2.นางมนัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์

ตรวจสอบของกลางพบ ดังนี้ 1.ลูกเสือโคร่ง (Panthera tigris) จำนวน 2 ตัว เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 2-3 เดือน สภาพลูกเสือโคร่งมีอาการท้องเสีย ขาดน้ำ อิดโรย และซูบผอม 2.งาช้างเอเชีย จำนวน 4 กิ่ง น้ำหนักรวม 48 กก. งาช้างแอฟริกา จำนวน 26 ท่อน น้ำหนักรวม 49.8 กก. และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง 19 รายการ น้ำหนักรวม 897 กรัม มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาว่าเป็นการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. ฐาน ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 17 และมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

2. ฐาน ร่วมกันค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 29 และมาตรา 89 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

3.มาตรา 116 บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

4.ฐาน “ร่วมกันค้างาช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 4 ประกอบมาตรา 13 ตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558 

5. ฐาน “ร่วมกันครอบครองงาช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 6 ประกอบมาตรา 14 และมาตรา 16 ตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558

พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึด จับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดม โดยลูกเสือโคร่งส่งมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ดูแลต่อไป

นายอรรถพล กล่าวอีกว่าได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งให้เข้าตรวจสอบสวนเสือทุกสวน หากพบการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ให้มีการควบคุมการเพิ่มจำนวนเสืออย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกรณีที่มีพฤติกรรมลักลอบนำเสือไปขาย ให้พิจารณาใช้อำนาจหน้าที่ในการพักและเพิกถอนใบอนุญาต ไปถึงการบังคับใช้กฎหมายทันที











กำลังโหลดความคิดเห็น