ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึกกลางทะเลพัทยาเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา หลังเรือโดยสารรับนักท่องเที่ยวชาวไทย 12 คน จากหาดแสมสาร เกาะล้าน กลับเข้าฝั่งแต่เครื่องปั๊มน้ำเสียทำน้ำทะเลทะลักเข้าเรือหวิดอับปาง โชคดีกลุ่มเรือสปีดโบ๊ตช่วยทันทำรอดชีวิตปาฏิหาริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวานนี้ (13 ก.ค.) ได้เกิดเหตุเครื่องปั๊มน้ำเรือโดยสารเสียกลางทะเลเมืองพัทยา จ.ชลบุรี (กลางร่องน้ำ) ระหว่างเกาะล้านกับชายฝั่งเมืองพัทยา จนเป็นเหตุให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้าท้ายเรือ และเรือกำลังจะจม จนทำให้กลุ่มผู้ประกอบเรือสปีดโบ๊ตต้องเร่งให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวไทย 12 คน เป็น ชาย 5 คน และหญิง 7 คน และได้นำตัวขึ้นจากเรือ
นายเอ็ด จันทร์กระจ่าย อายุ 30 ปี คนขับเรือเรือสปีดโบ๊ตชื่อเรือ ยอดตอง กล่าวว่า ได้เห็นเรือโดยสารลำดังกล่าวลอยลำอยู่กลางทะเลโดยมีผู้โดยสารอยู่เต็มลำเรือ นอกจากนั้น ยังสังเกตเห็นว่าด้านท้ายเรือเหมือนกำลังจะจมทะเล จึงเร่งเข้าให้การช่วยเหลือ
"เมื่อเข้าไปประกบข้างเรือได้เห็นน้ำทะเลกำลังไหลทะลักเข้าตัวเรือ จึงรีบตะโกนบอกให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในเรือสวมใส่เสื้อชูชีพทุกคน ก่อนลำเลียงมาขึ้นเรือสปีดโบ๊ตที่นำจอดเทียบเพื่อพากลับเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้ง 12 คนปลอดภัยดี และเมื่อพาขึ้นฝั่งได้สำเร็จพบว่ากลุ่มผู้โดยสารต่างพากันดีใจเข้าสวมกอดกันหลังรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้" นายเอ็ด กล่าว
ทั้งนี้ เรือที่ประสบเหตุเครื่องปั๊มน้ำเสียกลางทะเล เป็นเรือไม้ ลำตัวเรือยาวประมาณ 24 ฟุต มีนายจำรูญ อายุ 62 ปี เป็นกัปตันเรือ โดยได้รับผู้โดยสารชาวไทยมาจากหาดแสมสาร เกาะล้าน และกำลังพากลับเข้าฝั่ง
แต่เมื่อมาถึงกลางร่องน้ำ เครื่องปั๊มน้ำเกิดเสียจนทำให้น้ำทะเลไหลเข้าตัวเรือ และไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ด้านท้ายเรือจนทำให้เครื่องเรือดับ กัปตันเรือจึงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเรือสปีดโบ๊ตที่ผ่านไปมา เพื่อขอให้เข้าทำการช่วยเหลือ และพาผู้โดยสารกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
