อุตรดิตถ์ - ยังไม่พบร่องรอยหนุ่มโพนพิสัยหลงป่า อช.ภูสอยดาว..เจ้าหน้าที่ลุยเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาต่อทั้งทางอากาศ-ภาคพื้นดิน แม้บินเฮลิคอปเตอร์ส่องเส้นทางเดินขึ้น "ลานสนภูสอยดาว" แล้วเงียบ จากปกติคนหลงป่าน่าจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ
วันนี้ (9 ก.ค.) เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายังคงปูพรมค้นหา นายธัญวริช มะทีมา อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 167 หมู่ที่ 9 ต.หนองบอน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ที่ลงชื่อเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวลานสนภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเขตรอยต่ออุตรดิตถ์-พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ก่อนหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
ผอ.ส่วนอุทยาน สบอ.11 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บัญชาการค้นหาผู้พลัดหลง ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาร่วมภาคพื้นดินกับทางอากาศขึ้นเฮลิคอปเตอร์ค้นหา โดยวานนี้มีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 61 นาย ถูกแบ่งกำลัง 4 ชุด ปูพรมค้นหา นายธัญวริช มะทีมา อายุ 27 ปี แต่ไม่พบร่องรอย ซึ่งก็ไม่ย่อท้อ ยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไป
สำหรับวันนี้เตรียมพร้อมปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่เดินเท้าจากศูนย์บัญชาการค้นหาผู้พลัดหลง อช.ภูสอยดาว ค้นหาต่อเนื่อง พร้อมกับทำแผนบินให้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินค้นหาต่อ
ขณะที่วานนี้ (8 ก.ค.) นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) นายชำนาญ เนตรผสม ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สบอ.11 (พิษณุโลก) เดินทางมาที่ศูนย์บัญชาการค้นหาผู้พลัดหลง ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เพื่อติดตามเหตุการณ์นักท่องเที่ยว คือ นายธัญวริช สูญหายระหว่างการเดินเท้าขึ้นลานสนภูสอยดาว
นายฟารุต ใจทัศน์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดเผยหลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ค้นหานักท่องเที่ยวสูญหายว่า สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนจำนวน 61 คน แบ่งการเดินเท้าจำนวน 4 ชุด พบต้นกล้วยล้ม จึงนั่ง ฮ.ขึ้นตรวจสอบ พบว่าต้นกล้วยล้มนั้นเป็นผลจากสัตว์ป่าเหยียบเป็นช่วงๆ นักบินได้บินวนหลายรอบแล้วก็ไม่พบร่องรอยน่าสงสัย ซึ่งปกติคนหลงป่า หากได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ก็ควรอยู่ที่โล่งแจ้งหรือรออยู่ตามลำห้วย อาจโบกมือ แต่กรณีนี้ทุกอย่างเงียบ
ทั้งนี้ ตามประวัติของนายธัญวริช ได้มาสมัครงานฟาร์มหมูแห่งหนึ่งที่ อ.ทองแสนขัน โดยวันที่ 1 และ 2 ก.ค. 67 ถูกกักตัว และวันที่ 3 ก.ค.ทำงานวันแรก กระทั่งวันที่ 4 ก.ค.ได้แจ้งกับทางฟาร์มหมูว่าเดินทางกลับบ้านที่มหาสารคาม จึงให้รถที่ฟาร์มหมูมาส่งที่ บขส.อุตรดิตถ์ จากนั้นได้นั่งรถแกร็บเดินทางมาเที่ยว อช.ภูสอยดาว โดยไม่ได้กลับบ้านที่มหาสารคาม อุปกรณ์ที่พกอยู่ในกระเป๋า คือเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานและมีโน้ตบุ๊ก พร้อมของกินมาม่าคัพ สบู่ ยาสระผม แต่ไม่มีเปลและเต็นท์ หรือเครื่องดำรงชีพในป่า เบื้องต้นทราบว่าต้องกินยาเพื่อรักษาโรคส่วนตัว
เจ้าหน้าที่ชุดเดินเท้าค้นหาเล่าว่า กำลังเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้ค้นหาหนุ่มมหาสารคามแต่ก็ไม่พบ ทราบว่าผู้สูญหายเตรียมขึ้นไปลานสน แต่เดินไปถึงเพียงเนินวัดใจ หรือจุดแรกระยะ 650 เมตร จากนั้นได้เปลี่ยนเป้าหมาย จากปกติต้องเดินขึ้นตรงไป 2 กิโลเมตรถึงลานสน แต่เขาได้เดินออกนอกเส้นทางไปทางขวา ข้ามห้วย แล้วถอดรองเท้าวางกระเป๋าไว้ฝั่งตรงข้ามลำห้วย ตรวจสอบเชิงลึกพบว่าเขาอาจตกหลุม และจำเป็นต้องถอดรองเท้าออก แต่ค้นหาบริเวณรอบๆ ดังกล่าวก็ไม่เจอหลักฐานใดๆ