เจอกับตัว! สาวขับรถแช่ขวาเพราะไม่ชินทาง หนุ่มหัวร้อนขับปาดหน้า จอดขวาง ดึงกุญแจโยนทิ้ง

เชียงใหม่ - สาวขวัญผวาโดนหนุ่มหัวร้อนขับจี้ท้ายและบีบแตรใส่ ก่อนแซงแล้วปาดหน้าจอดขวางลงมาดึงกุญแจรถขว้างทิ้งข้างทาง เจ้าตัวแจงไม่ชินทางต้องเปิด GPS จึงขับแช่เลนขวาจนทำคู่กรณีโมโห เตรียมแจ้งความ ขณะที่ ตร.รู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว

ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปความยาว 1 นาที 49 วินาที ขณะที่สุภาพสตรีรายหนึ่งกำลังขับรถบนถนนสายสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยต้นคลิปมีเสียงบีบแตรรถ และเสียงตะโกนด่า หลังพบว่ามีรถเก๋งสีเทา-ดำ ป้ายทะเบียนเชียงใหม่ ขับปาดหน้าและจอดขวางกลางถนน ก่อนที่ชายรูปร่างท้วมสวมเสื้อสีฟ้าเดินลงมาจากรถด้วยอารมณ์โมโห ด่าทอหญิงคนขับรถเจ้าของคลิป ซึ่งได้เปิดกระจกลงมาถามชายที่เดินตรงมาที่รถว่า "เป็นอะไรคะ" ชายเสื้อสีฟ้าตอบด้วยเสียงดังว่า "เป็นอะไรคะเล่นโทรศัพท์" หญิงเจ้าของคลิปสวนว่า "ไม่ได้เล่นค่ะหนูอัดคลิปพี่อยู่" โดยชายเสื้อฟ้าตอบกลับไปว่า "ขับรถน่ะดูด้วย" หลังจากนั้นได้ยื่นมือเข้ามาในรถ ดึงกุญแจรถผู้เสียหายออกไปปาลงข้างทาง พร้อมกับพูดว่า "ไม่ต้องอัดแล้ว ไม่ต้องไปมึงน่ะ" แล้วบ่นต่อด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และขับรถออกไป

เจ้าของคลิปได้นำมาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์เมื่อวานนี้ (6 ก.ค. 2567) พร้อมกับข้อความว่า "เคยเจอแต่ในข่าว ไม่เคยเจอกับตัวเอง เรื่องเกิดขึ้นจากเราเปิด google map GPS จะเดินทางจากลำปางไปศาลจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ เราขับรถมากับลูกชาย และพี่สาวนั่งด้านหลัง คือจังหวะขับขึ้นบนสะพาน เราขับรถอยู่เลนขวาซึ่งอาจจะขับช้า เขาขับจี้ตูดเรา และพยายามกดแตรไล่ ซึ่งเราพยายามจะขับเข้าเลนซ้ายแล้วแต่จังหวะนั้นรถเยอะมากค่ะไม่สามารถตบเข้าเลนซ้ายได้ แต่พอเราหลบเข้าเลนซ้าย เขาแซง จังหวะนั้นเรากะกดแตร 2 ครั้งเพื่อที่จะบอกว่าขอโทษ จังหวะนั้นยอมรับว่าเราก็โกรธ จะรีบอะไรขนาดนั้น เราเลยยกมือถือขึ้นมาอัดคลิปไว้เพราะรถมันก็เยอะด้วย และเรามากับเด็ก เขากลับจอดรถปาดหน้า ซึ่งรถด้านหลัง เกือบจะชนรถเรา จากนั้นเขาลงมาต่อว่าเรา ลูกตกใจมาก เขายื่นมือเข้ามาคว้ากุญแจรถและโยนทิ้งเข้าป่าข้างทาง และต่อว่าเราว่าเราเล่นโทรศัพท์ เราสามารถยืนยันได้ ให้ลูกเป็นพยานเพราะลูกเป็นคนถือโทรศัพท์ให้เราค่ะตอนเปิดแมป GPS ก่อนที่เราจะคว้ามาอัดคลิปไว้

ตอนนี้ลูกเราก็ยังผวา และหวาดกลัวกับสิ่งที่บุคคลดังกล่าวกระทำ และถ้าหากมีรถชนท้ายเราเพราะเป็นช่วงลงสะพานคุณจะทำยังไง คุณคิดว่าคุณมีอารมณ์โมโห แต่ไม่ห่วงเพื่อนร่วมทาง สุดท้ายแล้ว เราคิดอยู่ว่าจะแจ้งความดีไหม เพราะตอนนี้ลูกกลายเป็นคนตกใจมาก และยังคงหงอยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่"

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่าผู้โพสต์คือ น.ส.แอ๋ม อายุ 28 ปี ชาว จ.ลำปาง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 ขณะเดินทางมาทำธุระคัดเอกสารที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่าไม่รู้เส้นทาง จึงใช้มือถือเปิดกูเกิลแมปเพื่อนำทาง และในรถมีผู้หญิงสองคน และเด็กวัย 7 ขวบ ที่ตกใจและหวาดผวากับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ขณะที่จากการสอบถาม พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.ช้างเผือก เจ้าของพื้นที่ บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้มาแจ้งความอ้างว่าติดธุระอยู่ยังไม่สะดวก แต่ได้โพสต์คลิปลงออนไลน์เมื่อวานนี้ ซึ่งผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกในวันนี้ แต่ยังไม่ทราบเวลา

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเจ้าของคลิปอาจจะขับรถไปใช้โทรศัพท์ไป และขับรถแช่อยู่เลนขวา ส่วนคู่กรณีก็น่าจะหัวร้อนใช้อารมณ์มากไป หากผู้เสียหายเข้าแจ้งความนั้นเป็นเรื่องของความผิดส่วนบุคคล ในเรื่องทำให้เสียทรัพย์ได้ ส่วนคู่กรณีตำรวจทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร เพราะได้หลักฐานชัดเจนจากป้ายทะเบียนรถที่เห็นในคลิป พร้อมจะเรียกมาดำเนินคดีหากมีการแจ้งความ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ย้ำเตือนเรื่องของความปลอดภัย ใช้รถใช้ถนนต้องใช้สติมากกว่าอารมณ์ เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นถนนสาธารณะที่เกิดเหตุกลางวัน หากเป็นกลางคืนหรือถนนเปลี่ยวไม่ควรเปิดกระจกรถให้เข้าถึงตัวได้ง่ายจะเกิดอันตรายได้หากฝั่งตรงข้ามก่อเหตุรุนแรง

ขณะที่ในโลกออนไลน์ก็คอมเมนต์เสียงแตก ทั้งเห็นใจฝ่ายเจ้าของคลิปที่ถูกกระทำ แต่ก็ห่วงเรื่องความปลอดภัย ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมถึงเปิดกระจกรถจนทำให้ชายคู่กรณีก่อเหตุได้ ซึ่งอีกฝ่ายได้ย้ำเตือนเรื่องความปลอดภัยที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ และการขับรถช้าแช่เลนขวานั้นเสี่ยงอันตราย