นครพนม-เวียนมาถึงแล้วงานบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช7-13 ก.ค.นี้ นางรำจากทุกอำเภอกว่า1,000 ชีวิตนำโดยอดีตมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ น้ำตาล -ชลิตา สวนเสน่ห์ ร่วมรำถวายองค์พญานาค คาดผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวลาวจำนวนมากแห่ร่วมงานหวังเป็นสิริมงคลชีวิตและได้โชคลาภ
วันที่ 7 - 13 ก.ค.นี้ 7 วัน 7 คืน ณ บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง จ.นครพนมกำหนดจัดงานบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อนุรักษ์สืบสานงานประเพณีและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ให้เกิดการกระจายรายได้เข้าสู่ท้องถิ่น คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทย และพี่น้องจากฝั่ง สปป.ลาว มาร่วมงานจำนวนมาก โดยปีนี้มีดารา นักแสดง แจ้งความประสงค์มาร่วมรำถวายและร่วมพิธีบวงสรวงหลายคน
กิจกรรมในพิธีเปิดงานวันแรก 7 เดือน 7 ชมขบวนแห่เครื่องบูชาพญาศรีสัตตนาคราช สูง 7.7 เมตร การแสดง แสง สี อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา, ขบวนนางรำกว่า 1,000 ชีวิต นำโดย น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559, การแสดง "โขน" รามเกียรติ์ ตอนพรหมพงศ์วงศ์อสุรา รับเชิญจากวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ นักแสดงกว่า 100 คน, การแสดงวิถีชีวิต ๙ ชนเผ่า ๒ เชื้อชาติ, การแสดงศิลปวัฒนธรรม หมอลำ, การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP, ถนนคนเดิน, มหกรรมโรงทาน ตลอด ๗ วัน
นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการสำนักงานนครพนม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าปีนี้ได้ร่วมมือกับสมาคม บริษัทนำเที่ยวจาก กทม. ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนำนักท่องเที่ยว จำนวนกว่า 400 คน เข้าร่วมงานและร่วมรำบวงสรวงด้วย บางส่วนเป็นนักท่องเที่ยวสายศรัทธาที่เคยร่วมรำบวงสรวงในปีที่แล้วกลับมาเที่ยวซ้ำอีก ถือเป็นกระแสการเดินทางท่องเที่ยวที่ดี นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจกับรูปแบบการท่องเที่ยวที่มีส่วนร่วมในกิจกรรม
การได้มาสัมผัสกับประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น รวมถึงการแต่งกายชุดชนเผ่าหรือชุดประจำจังหวัด ถือได้ว่าเป็นการสร้างสีสันบรรยากาศของการจัดงาน เพิ่มวันพัก และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ให้มากขึ้น
นางสาวเสาวนีย์ระบุอีกว่า ททท.ได้ประชาสัมพันธ์การจัดงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ เลข 7 เป็นสัญลักษณ์ในการสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวสายศรัทธาจากทั่วประเทศให้เดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาชมความงดงามและยิ่งใหญ่ตระการตาของขบวนแห่เครื่องบวงสรวง ขอพรองค์พญาศรีสัตตนาคราชที่ตั้งตระหง่านริมฝั่งโขง เสริมความเป็นสิริมงคลให้ชีวิต เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สัมผัสได้ด้วยตนเอง และยังสามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางตามรอยนาคา 3 จังหวัดสนุก และท่องเที่ยวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ได้อีกด้วย
