xs
xsm
sm
md
lg

จับสึกทันทีมารศาสนา "หลวงตาหนูที" สร้างวีรกรรมขับรถตู้พาลูกเที่ยวทะเลสัตหีบ พบประวัติฉาวโชกโชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​ - ฉาวไม่เลิก "หลวงตาหนูที" ประวัติเคยถูกจับสึก จับดำเนินคดีหลายครั้งจากพฤติกรรม​ทำลายพระพุทธศาสนา​ วันนี้ยังไม่สำนึกบาปขับตู้รถสวมเครื่องแบบพระนั่งชมวิวริมชายหาดนาจอมเทียน จ.ชลบุรี อ้างพาลูกพิการเที่ยว ตรวจสอบในรถสุดสกปรก เผยบวชเพราะไม่รู้จะทำอะไรกินสุดท้ายเจอจับสึกทันควัน
เมื่อเวลา 00.10 น.วันนี้ (2 ก.ค.)​ นายอุดม สุวรรณฆะนะ ผู้ใหญ่บ้านนาจอมเทียน ม.1 พร้อมผู้ช่วย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบชายหาดนาจอมเทียน ช่วงหน้าร้านข้าวต้มเศรษฐี ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งชาวบ้านว่า พบพระภิกษุสงฆ์ขับรถตู้ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง สภาพเก่า หมายเลขทะเบียน ฒว 9319 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดพักชมวิวชายหาด โดยสงสัยว่าเป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

นอกจากนั้น ยังได้ประสานไปยังคณะสงฆ์ประกอบด้วย พระครูปิยะกิจวิบูล หรือ อาจารย์แก้ว เจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน พระครูสมศักดิ์ ตาณโร เจ้าอาวาสวัดนาจอมเทียน พระครูปลัดวินัย ธีรปปัญโญ เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ให้ร่วมเดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบพระรูปดังกล่าว คือ หลวงตาหนูที ทินราช อายุ 76 ปี ที่กำลังนั่งอยู่บนเบาะคนขับในชุดพระสงฆ์ แต่ไม่มีหนังสือสุทธิปัจจุบันมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และมีแค่เพียงหนังสือสุทธิเล่มเก่าตั้งแต่ปี 2534 เมื่อครั้งบวชเป็นพระที่วัดจอมศรี จ.อุดรธานี


จากการตรวจสอบภายในรถยังพบอาหารที่ได้จากการรับบิณฑบาตรวางกระจัดกระจายเกลื่อนรถ บางชนิดเริ่มเน่าบูดส่งกลิ่นเน่าเหม็น และยังพบกองอุจจาระถ่ายทิ้งไว้ รวมทั้งยังมีเสื้อผ้าชุดฆราวาสอีกหลายชุด ซึ่งอดีตหลวงตาอ้างว่าเป็นของลูกชายที่ป่วยพิการ

เบื้องต้น หลวงตาหนูที อ้างว่าได้ขับรถตู้มาพร้อมกับลูกชายพิการ (ไม่พบในที่เกิดเหตุ) และได้ออกเดินทางจากบ้านพักใน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าสู่ชายทะเลภาคตะวันออก อ.สัตหีบ โดยมีโปรแกรมพาลูกมาเที่ยวพักผ่อนชายทะเล และระหว่างทางยังเจอด่านตรวจแต่ไม่มีตำรวจคนใดว่ากล่าวตักเตือน เพราะรู้จักตนเป็นอย่างดี 

ส่วนสาเหตุที่บวชเพราะชรามากแล้ว และไม่รู้จะไปทำอะไร ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ถูกจับสึกแล้วและไม่รู้ว่าจะไปทำอาชีพอะไรต่อได้ 


ด้านคณะสงฆ์ที่เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การขับรถของหลวงตารูปดังกล่าวแม้เป็นความผิดไม่ถึงขั้น “ปาราชิก” แต่ทางมหาเถรสมาคมได้มีมติห้ามภิกษุสามเณรขับรถยนต์ และยิ่งมีการอ้างว่า ขับรถมาเที่ยวพักผ่อนชายทะเล โดยเฉพาะยามค่ำคืน ถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์พระภิกษุสงฆ์​ต่อผู้พบเห็น จึงถือและเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง 

รวมถึงไม่มีสังกัดวัดที่แน่ชัด และไม่มีหนังสือสุทธิปัจจุบันมายืนยันตัวตน จึงได้ทำการสึกและให้ลาสิกขาเป็นฆราวาส รวมทั้งให้ขับรถเดินทางกลับภูมิลำเนา

และจากการตรวจประวัติ "พระหนูที" พบว่าเคยตกเป็นข่าวฉาวเรื่องการใช้สัตว์ เช่น สุนัข แพะ และลา เดินลากรถเข็นใส่อาหารขอเรี่ยไรรับบิณฑบาตจนถูกจับแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ และถูกจับสึกมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 59-66 

กระทั่งปัจจุบัน​ยังพบว่ากลับบวชเป็นภิกษุอีก และยังสร้างเรื่องฉาวไม่เลิกด้วยการขับรถตู้ตระเวนท่องเที่ยวพื้นที่ชายหาดภาคตะวันออก






กำลังโหลดความคิดเห็น