มหาสารคาม - ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม จัดโครงการอาหารกลางวันให้กำลังพล เพื่อลดรายจ่าย และเป็นสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในยุคค่าครองชีพสูง เผยจัดให้กินฟรีวันจันทร์ อังคาร วันพฤหัสฯ ส่วนวันพุธ กับวันศุกร์ ทางกำลังพลจัดอาหารตามใจชอบมารับประทานกันเอง
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.อุกกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน รอง ผบก. พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก. พ.ต.อ.ธวัชชัย สัตยพัฒน์ รอง ผบก. พ.ต.อ.วีระเดช เลขะวรกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.นพ นรชาญ รอง ผบก. ร่วมกันจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้ข้าราชการตำรวจฝ่ายอำนวยการ และชุดสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม รวมกว่า 100 คน เพื่อลดรายจ่ายให้ข้าราชการตำรวจ และเป็นสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่
พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เดิมตั้งอยู่ที่ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กำลังพลสามารถหาอาหารการกินได้ง่าย แต่ปัจจุบันย้ายมาที่ทำการแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายมหาสารคาม-บรบือ ห่างจากตัวเมืองมหาสารคาม ประมาณ 8 กิโลเมตร ประกอบกับบริเวณนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหาร มีก็อยู่ไกล ทำให้ช่วงเวลากลางวัน กำลังพลค่อนข้างที่จะลำบากในการที่จะออกไปรับประทานอาหารด้านนอก ไปกลับคิดเป็นระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร ทำให้กลับมาทำงานไม่ตรงเวลา เสียเวลาในการทำงาน
ตนจึงมีแนวคิดว่าอยากจัดให้มีโครงการอาหารกลางวัน เพื่อเป็นสวัสดิการให้กำลังพลที่ทำงานอยู่ที่นี่ จึงได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กำลังพลในวันจันทร์ วันอังคาร และวันพฤหัสฯ ส่วนวันพุธ กับวันศุกร์ ทางกำลังพลจะจัดอาหารมารับประทานกันเอง เป็นพวก ส้มตำ แจ่วต่างๆ ที่เป็นอาหารอีสาน
ซึ่งหากต้องขับรถจากที่ทำงานไปรับประทานอาหารไกลๆ นอกจากจะต้องเสียค่าข้าวแล้ว ต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่ม ซึ่งตำรวจฝ่ายอำนวยการที่นี่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย รายได้อาจจะไม่มาก เราเลี้ยงอาหาร 1 มื้อ สามารถช่วยประหยัดไปได้ มื้อหนึ่งก็ 50 กว่าบาทแล้ว
โดยอาหารที่นำมาจะมาจากร้านอาหารที่มีคุณภาพ วันนี้มีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ต้มจืดมะระ ผัดกะเพราหมูสับ และไข่เจียว รวมถึงมีผลไม้ด้วย จะจ้างผู้ประกอบการทำอาหารมาให้ เพื่อให้กำลังพลได้กินให้อิ่ม จะได้มีกำลังในการทำงาน ส่วนข้าวสารได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าสถานีใน สภ.ต่างๆ 25 สภ. หรือบาง สภ. สนับสนุนมาเป็นเงินบ้างก็มี
ซึ่งผลตอบรับถือว่าดี เพราะกำลังพลไม่ต้องขับรถออกไปรับประทานข้างนอก ทำให้ประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือ อาหารถูกปาก ซึ่งตนจะคอยถามลูกน้องตลอดว่าอาหารเป็นยังไง อร่อยไหม เพราะหากไม่อร่อย หรือคุณภาพไม่โอเค เราจะได้ไปแจ้งกับทางผู้ประกอบการให้ทราบ และปรับปรุง ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะช่วยให้ลูกน้องประหยัดเงิน ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยทีเดียว