เพชรบูรณ์ – หลวงพี่ตำแตง เปิดอกโต้..ยันโดนกลั่นแกล้งปล่อมเฟซฯ ส่งภาพ-ข้อความแชทอนาจาร เผยแพร่ผ่านเพจดังจนโดนวิพากษ์ยับ เผยเคยแจ้ง ตร.วิเชียรบุรี เรียกสอบคนก่อเหตุรับสารภาพแล้ว-คดียังอยู่ชั้นศาล แต่ยังไม่ยอมเข็ด
วันนี้(28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว3” ได้โพสต์รูปภาพพระรูปหนึ่งที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า“พระมหาบารมี อินทรารัตน์” และภาพข้อความแชทที่พระรูปดังกล่าวส่งคลิปตำแตงให้สีกาสาว พร้อมระบุข้อความว่า..“หลวงพี่ขี้เหงา...พระเพชรบูรณ์ ส่งคลิป ตำแตงให้สีกาสาว“
และอีกโพสต์ระบุว่า “ดูเงียบๆ นะคุณโยม อาตมาได้หมดว่าแต่คุณโยมสะดวกพร้อมเพย์มั๊ย? จ.เพชรบูรณ์ ปล.ในคอมเมนต์พระในรูปมาชี้แจงบอกว่าถูกปลอมเฟซเคยแจ้งความไว้แล้ว“ พร้อมเผยแพร่ข้อความที่พระรูปดังกล่าวคุยแชทกับโยมผู้ชายว่าดูเงียบๆอย่าบอกใครนะคุณโยมเดี๋ยวมีให้รับชมตลอด อาตมาได้ทั้ง รุก-รับ นะ และถ้าอยากเจออาตมาตัวเป็น ที่วิเชียรบุรี เพชรบูรณ์..
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก บางส่วนระบุว่า..หากเป็นพระจริงๆ แล้วมีพฤติกรรมแบบนี้ให้ลาสิขาออกไปไม่ต้องบวชเป็นพระ..
ต่อมาทราบว่าพระรูปดังกล่าว จำวัดอยู่ที่วัดในเรืองศรี ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งพระมหาบารมี อินทรารัตน์ ที่ถูกกล่าวอ้างเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนน่าจะโดนแกล้งจากพวกมิจฉาชีพซึ่งตนไม่ทราบจุดประสงค์ว่าต้องการเงินหรืออะไร เพราะขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากผู้กระทำการดังกล่าว
แต่เบื้องต้นได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.วิเชียรบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะขณะนี้มีผลกระทบไม่เฉพาะตัวเองเท่านั้น ยังกระทบถึงบุคคลรอบข้างด้วย และทราบมาว่า บุคคลดังกล่าวเคยก่อเหตุลักษณะนี้ก่อน และมีคนตกเป็นเหยื่อมาหลายคนแล้ว
พระมหาบารมี อินทรารัตน์ เปิดเผยอีกว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนโดนกลั่นแกล้ง ซึ่งทางวัดและตนได้แจ้งความเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรี ได้เรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนแล้ว และรับสารภาพว่ากระทำจริงใส่ร้ายตนจริง แต่หลังจากที่รับทราบข้อกล่าวหากลับไปแล้ว ก็ได้กระทำพฤติกรรมซ้ำๆ อย่างเช่น ส่งรูปภาพอนาจารไปตามเพจข่าว ที่มีผู้ติดตามเยอะๆ เพื่อสร้างความเสียหายให้กับตน ซึ่งทางตนและวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตั้งทีมทนายความดำเนินคดีให้ ซึ่งตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาล
ด้านพระครูโสภณพัชโรภาส เจ้าอาวาสวัดในเรืองศรี อายุ 39 ปี เปิดเผยว่าพระที่ถูกกล่าวอ้างนั้นเป็นพระอาคันตุกะ รู้จักกับพระลูกวัด มาอาศัยจำวัดเพื่อเรียนหนังสือที่ มจร. ซึ่งเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ก็เคยเกิดเหตุเช่นเดียวกันนี้ ทางวัดจึงได้ให้ไปแจ้งความร้องทุกไว้ที่ สภ.วิเชียรบุรี พร้อมทั้งมอบหมายให้ทนายความดำเนินการฟ้องศาล แต่ก็ยังเกิดเหตุขึ้นซ้ำอีก ส่วนสาเหตุนั้นตนก็ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร คงต้องถามเจ้าตัวเอง