xs
xsm
sm
md
lg

แฟนสาวหนุ่มพยาบาลทหารเรือแจ้ง ตร.ตามจับคนร้ายปีนหน้าต่างห้องนอนชั้น 2 เปิดตู้เซฟฉกเงิน 1.1 ล้านเตรียมใช้จัดงานวิวาห์หนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - แฟนสาวหนุ่มพยาบาลทหารเรือ แจ้งตำรวจตามจับคนร้ายปีนหน้าต่างห้องนอนชั้น 2 อาคารพาณิชย์สูง 3 เมตร ฉกเงินสดในตู้เซฟ 1.1 ล้านบาทเตรียมใช้จัดพิธีวิวาห์หนี แจงอยู่บ้านคนเดียว ไม่ตั้งรหัสตู้เซฟทำคนร้ายไขกุญได้ง่าย  ตร.สุดงงไม่พบร่องรอยงัดแงะ รอบตัวอาคารไม่มีร่องรอยคนร้าย เตรียมเรียกสอบอีกครั้ง

เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านเลขที่ 61/304 ม.5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ

พบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นเรียงติดต่อกันจำนวน 5 คูหา ส่วนห้องเกิดเหตุเป็นห้องริมสุดที่อยู่ติดถนนสายหลัก และมีผู้คนสัญจรไปมาพลุกพล่าน โดยมีผู้เสียหายคือ พันจ่าเอกภูษิต วิริยะกิจ อายุ 30 ปี พยาบาลเวชกิจฉุกเฉิน โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และ น.ส.อันริกา กันธุระ อายุ 28 ปี ที่กำลังอยู่ในอาการตกใจยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ที่หน้าบ้าน

ก่อนจะนำเข้าตรวจสอบภายในห้องนอนบนชั้นที่ 2 ของอาคารที่อยู่ในสภาพถูกรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจาย และที่ตู้เซฟได้ถูกคนร้ายถูกใช้ลูกกุญแจไขเปิดออกและได้นำทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 1,100,000 บาทหลบหนีไป นอกจากนั้น ยังพบถุงดำที่เจ้าของบ้านซึ่งเป็นแฟนสาวของหนุ่มพยาบาลทหารเรือ สามารถกระชากคืนจากมือคนร้ายได้ ขณะกำลังปีนหนีออกจากหน้าต่างห้องนอนบนชั้น 2 ซึ่งภายในถุงมีทรัพย์สินจำพวกเครื่องประดับ แท็บเล็ต และพระเครื่องเลี่ยมทองอยู่ภายใน


โดย น.ส.อันริกา บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมาซึ่งตนอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนแฟนหนุ่มยังไม่กลับจากทำงาน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดังมาจากบนชั้นที่ 2 ของอาคารจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูจนพบว่ามีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ และสวมถุงมือกำลังปีนหน้าต่างหลบหนี ตนรีบวิ่งไปคว้าถุงดำจากมือคนร้ายไว้

และจากการสังเกตด้านนอกอาคารยังพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 รายที่ยืนรออยู่ด้านนอก แต่มองเห็นไม่แน่ชัดว่าเป็นชายหรือหญิง ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้พากันหลบหนีโดยไม่รู้ว่าหนีไปในทิศทางใด เนื่องจากตนไม่กล้าตามออกไปดูเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย

ซึ่งเงินสดจำนวนกว่า 1 ล้านบาทที่คนร้ายโจรกรรมไปนั้นเป็นเงินมรดกที่แฟนหนุ่มเตรียมนำไว้ใช้ในการจัดพิธีแต่งงานช่วงปลายปี แต่กลับถูกคนร้ายโจรกรรมไปจนหมด และยังบอกอีกว่าสาเหตุที่คนร้ายเปิดตู้เซฟได้อย่างง่ายดาย เพราะคนร้ายได้ไปค้นหาลูกกุญแจตู้เซฟที่ซุกซ่อนไว้ในห้อง ซึ่งตนไม่ได้ตั้งรหัสตู้เซฟไว้จึงทำให้คนร้ายนำเงินสดออกไปได้โดยง่าย  

ส่วนสาเหตุที่นำเงินสดจำนวนมากใส่ไว้ในตู้เซฟเพราะกลัวถูกมิจฉาชีพดูดเงินไปจากแอปพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์มือถือโดยไม่คิดว่าจะมาถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมไป จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว


ด้าน พ.ต.ท.สินสมุทร พนักงานสอบสวน เผยว่า เบื้องต้นได้ทำการถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้ทำเป็นหลักฐานแล้ว และจากนี้จะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจหารอยนิ้วมืออย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากไม่พบร่องรอยการงัดแงะทั้งบริเวณหน้าต่างและตู้เซฟ

รวมทั้งจากการตรวจสอบโดยรอบตัวอาคารก็ไม่พบจุดที่คนร้ายจะสามารถปีนขึ้นลงได้ เนื่องจากอาคารพาณิชย์ดังกล่าวมีความสูงเกือบ 3 เมตร ประกอบกับคนร้ายไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ โดยเฉพาะร่องรอยนิ้วมือและรองเท้าขณะทำการปีน

“ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงกลางวันที่มีผู้คนพลุกพล่าน แต่กลับไม่มีผู้ใดเห็นคนร้ายเลย ซึ่งหลังจากนี้จะได้เชิญผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงและผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านอีก 1 คนมาทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามหาตัวคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.ท.สินสมุทร กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น