ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุมัติงบ 5.6 ล้านบาทปรับปรุงอาคารสถานีตำรวจภูธรอุบลรัตน์หลังเกิดปัญหาตัวอาคารทรุดพังใช้งานไม่ได้ ขณะที่สำนักงาน ป.ป.ช.ขอนแก่นเตรียมเรียกสอบบริษัทรับเหมาก่อสร้างทำตามสัญญาก่อสร้างหรือไม่
วันนี้ (18 มิ.ย.) พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากอาคารสถานีตำรวจภูธรอุบลรัตน์ได้เกิดชำรุดรอยร้าวตั้งแต่ชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3 และชั้นที่ 4 ทำให้เจ้าพนักงานต้องย้ายมาทำงานที่หอประชุมแทน ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ฝ่ายวิศวกรรมมาตรวจสอบโครงการทั้งหมดแล้ว และขณะนี้ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 5.6 ล้านบาทเพื่อใช้ในการปรับปรุงอาคาร โดยตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นเตรียมเปิดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างได้เข้ามาประมูลเพื่อเข้าไปซ่อมแซมแล้ว
พล.ต.ต.อนุวัตรบอกว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งได้รับรายงานจากผู้กำกับการสถานีภูธรอุบลรัตน์ว่าอาคารสถานีใช้การไม่ได้ จากนั้นทางผู้กำกับการได้ไปสำรวจว่าอาคารสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ หรือจะต้องมีการสร้างอาคารใหม่ทั้งหมด จากนั้นได้เชิญเจ้าหน้าที่โยธาธิการจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่โยธาธิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โยธาธิการเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้ามาตรวจสอบ
จนกระทั่งทางโยธาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปว่าอาคารสามารถที่จะซ่อมแซมได้ ไม่สามารถใช้งานได้บางส่วนจึงได้นำเหล็กไปค้ำยันไว้เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย
ขณะที่นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหาในเรื่องการควบคุมงาน การตรวจรับงาน เพราะจากการตรวจสอบจากทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และอาจารย์จากคณะวิศวกรรมข มข.พบว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอตรวจสอบทั้งหมด และในส่วนของชั้น 2 และชั้น 4 ที่ทางผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจพบว่าไม่สามารถใช้งานได้เด็ดขาด ตามขั้นตอนแล้วจะต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน
“ในส่วนนี้ขอดูเอกสารหลักฐานต่างๆ ว่าทำตามขั้นตอนหรือไม่ แต่ก็ยังจะต้องเรียกผู้เกี่ยวข้อง หรือคณะกรรมการทุกคนมาสอบสวน และหากผู้เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการตามขั้นตอนก็จะมีความผิด และหากเป็นข้าราชการก็จะมีความผิด ตาม ม.157 และ ม.162 และยังต้องดูด้วยว่าผู้ประกอบการ กับกลุ่มคณะกรรมการทุกชุดที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมานั้นมีการสมรู้ร่วมคิดกันหรือไม่” นายธีรัตน์กล่าว และว่า
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบในเรื่องของสัญญาจ้าง ในสัญญานั้นหากผู้ประกอบการทำไม่ถูกต้องตามสัญญา เช่นที่ถูกตรวจสอบพบแรงอัดปูนที่ระบุไว้ 240 แต่ทำเพียง 100 ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็เป็นการทำผิดสัญญา โดยขณะนี้รอเอกสารต่างๆ จากทางตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นก่อน รวมทั้งต้องสอบสวนคนที่อยู่ในบริเวณโรงพัก หรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในบริเวณอาคารที่เกิดปัญหา เพราะยังไม่ทราบว่ามอบหมายให้ใครดูแล
ในส่วนของนายช่างควบคุมงานนั้น จะต้องตรวจสอบในเรื่องของระเบียบ หากในสัญญาระบุว่าเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ หรือผู้มีอาชีพเกี่ยวข้อง แต่การทำงานในระดับโครงสร้างขนาดนี้ก็ต้องตรวจสอบในเรื่องของคุณสมบัติควบคู่กันไปด้วย แต่การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้คุมงานมีนายช่างโยธาธิการจังหวัดขอนแก่นมาควบคุมดูแลด้วย ก็จะต้องเรียกมาสอบสวน รวมถึงทุกคนที่มีชื่อเป็นคณะกรรมการ ทุกชุดที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทั้งหมด รวมถึงการกำหนดราคากลาง การเปิดซองการบริหารสัญญาหรือผู้ตรวจรับงานคุมงาน ก็ต้องถูกสอบสวนทุกคน
