ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยังไม่พบเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลางหายจากอ่าวสัตหีบในเขตน่านน้ำกัมพูชา แม้ผู้การตำรวจน้ำจะนำทีมงานบินด่วนเข้าพบรอง ผบ.ทร.กัมพูชา และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทยในกรุงพนมเปญ ให้ช่วยตามหา คาดหนีลอยลำในเขตน่านน้ำสากลแถบประเทศเวียดนาม
จากเหตุการณ์เรือน้ำมันดีเซลเถื่อนของกลาง 3 ใน 5 ลำ ซึ่งถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 หายจากอ่าวสัตหีบ ช่วงคืนวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังตำรวจน้ำสัตหีบ ได้นำเรือน้ำมันเถื่อนของกลางเครือข่าย "เสี่ยโจ้" ย้ายออกจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ไปจอดทอดสมอกลางทะเลอ่าวไทย พร้อมน้ำมันกว่า 3.3 แสนลิตร
โดยอ้างว่ามีพายุเข้าพื้นที่จนเกิดคลื่นลมแรง และหวั่นว่าเรือของกลางจะซัดถูกสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำจนได้รับความเสียหาย
และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนังในสังคมไทยถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจน้ำสัตหีบ ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เซ็นคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. จำนวน 4 นาย ย้ายมาช่วยราชการปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ศปก.บช.ก. โดยให้ขาดจากต้นสังกัด
ประกอบด้วย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 บก.รน. พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน. ส.ต.อ.ธรรมรัตน์ เล็กมนตรา ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.5 บก.รน. และ ส.ต.ท.อภิชาติ จันทร์หนู ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.5 บก.รน.นั้น
ล่าสุด วันนี้ (14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกเดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อเข้าพบ พล.ร.อ.เตีย โซ๊ะคา รอง ผบ.ทร.และหัวหน้าโค้ชการ์ด ที่โรงแรมพนมเปญ เพื่อหารือและขอความร่วมมือในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนจำนวน 3 ลำ ที่หลบหนีออกมาจากหน้าสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ มุ่งหน้าเข้าทะเลเกาะช้าง จ.ตราด เพื่อหนีออกนอกน่านไทยเข้าประเทศกัมพูชา
โดยในเบื้องต้นรอง ผบ.ทร.กัมพูชา ได้รับปากว่าจะช่วยตรวจสอบและค้นหาเป้าหมายดังกล่าว
และวันนี้ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมคณะยังได้ขอเข้าพบ น.อ.ธงฉาน บุญระเทพ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ประจำกรุงพนมเปญ เพื่อขอความร่วมมือในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางทะเลติดต่อประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนามช่วยตามหาเรือทั้ง 3 ลำ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในประเทศเพื่อนบ้านว่า ขณะนี้ยังไม่พบเรือทั้ง 3 ลำในเขตน่านน้ำกัมพูชา แต่ที่น่าจับตาคือ เรือทั้ง 3 ลำอาจจะยังคงลอยลำอยู่ในเขตน่านน้ำสากลแถบประเทศเวียดนาม เนื่องจากเชื่อว่าเรือของกลางทั้ง 3 ลำ ไม่น่าที่จะกล้าเข้าไปทอดสมอในเขตน่านน้ำกัมพูชา เพราะเกรงบารมีของ "บิ๊กต้อ" พล.ร.อ.เตีย ซกคา หัวหน้าโค้ชการ์ด ที่สามารถเชื่อมประสานได้กับทุกประเทศและยังมีความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพเรือไทย และประเทศไทย