ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โผล่อีก! ที่ อ.ครบุรี โคราช อ้างอธิฐานจิตสวดอ้อนวอนพระเจ้า รักษาโรคได้หายเป็นปลิดทิ้ง ระบุ“สิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ แต่พระเจ้าทรงทำได้” ด้านผู้ใหญ่บ้านเผยเป็นรูปแบบกลุ่มเผยแผ่ศาสนา นำของมาแจกชาวบ้านทำกิจกรรมสวดมนต์ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าทุกวันอาทิตย์ ยังไม่สร้างความเดือดร้อนเสียหายหรือมีการร้องเรียน ขณะชาวบ้านบางคนเข้าร่วมอธิฐานขอให้พระเจ้าปัดเป่าโรคร้ายแต่ไม่หายจริงจึงไม่ไปร่วมอีก
วันนี้ ( 14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนั่น สุขขี้เหล็ก อายุ 62 ปี ชาวบ้านหนองตะไก้ หมู่ที่ 8 ต.หนองตะไก้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่อ้างว่าก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน ป่วยเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จนแทบไม่สามารถเดินหรือเคลื่อนไหวได้ จนต้องไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เริ่มต้นที่โรงพยาบาลหนองบุญมาก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ ตอนนั้นทางแพทย์บอกว่าต้องส่งต่อไปทำการรักษาด้วยการผ่าตัดที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ในตอนนั้นตัวเองตัดสินใจแล้วว่าจะให้ทางโรงพยาบาลทำการผ่าตัด แต่ในระหว่างที่รอเตรียมการผ่าตัด ก็มีกลุ่มที่บอกว่าเป็นชาวคริสต์ พากันมาหาที่บ้านและบอกว่าจะช่วยให้หายจากอาการดังกล่าว จากนั้นได้ทำมาการอธิษฐานจิตขอให้พระเยซูช่วยให้หาย พร้อมกับเอ่ยชื่อของตัวเอง เพียงแค่นั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จากเดินแทบไม่ได้ จะไปเข้าห้องน้ำก็ต้องคลานไป แม้จะทำการรักษาด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งหาหมอจับเส้น กินยาทุกอย่างที่โฆษณาว่าดี ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตอนนี้ผ่านมาได้เกือบปี ตัวเองกลับมาเดินได้ปกติ รวมถึงสามารถทำงานอย่างการทำไร่มันสำปะหลังที่ไม่เคยได้ทำมานานนับสิบปี ได้เหมือนเช่นปกติแล้ว
นายสนั่น บอกอีก ว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่เคยเชื่อว่าแค่การอธิษฐานจิตจะสามารถช่วยเหลือรักษาอาการป่วยของตัวเองได้ แต่วันนี้เชื่อสนิทใจ เพราะมาประสบพบเจอกับตัวเอง จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมกับทางกลุ่มคริสตจักรกลุ่มนี้ในยามที่ว่างเว้นจากการทำงาน แต่ก็ไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมจนถึงขั้นเปลี่ยนศาสนา ซึ่งจะมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมกันที่บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้าน ทุกวันอาทิตย์ โดยจะมีการสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและทำกิจกรรมเหมือนเช่นคริสตจักรทั่วไปเพียงแค่นั้น ไม่มีเรื่องค่าสมาชิกหรือค่าใช้จ่ายใดๆ กลับกันทางกลุ่มผู้ที่มานำทำกิจกรรมจะนำสิ่งของต่างๆมาแจกสมาชิกและชาวบ้านแทบทุกครั้ง จึงมองไม่เห็นว่ากลุ่มคริสต์กลุ่มนี้จะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวที่ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน มีรั้วรอบขอบชิด ถูกปิดล็อกไม่มีใครอยู่ในบ้าน ด้านหน้ากำแพงบ้านมีการติดป้ายซึ่งมีข้อความว่า “จุดประกาศสามัคคีธรรมหนองตะไก้ องค์กรคริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ สังกัดสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย กรมการศาสนากระทรวงวัฒนธรรม” พร้อมกับแคปชั่นส่งท้ายที่ว่า “สิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ แต่พระเจ้าทรงทำได้”
จากการสอบถาม นายฉะอ้อน รักกลาง ผู้ใหญ่บ้านหนองตะไก้ หมู่ที่ 8 บอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อนมีชาวบ้านมาแจ้งว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งมาทำกิจกรรม พร้อมกับนำของมาแจกชาวบ้าน ก็รู้เพียงแค่นั้น แต่มารู้ทีหลังว่ากลุ่มดังกล่าวมาในรูปแบบของกลุ่มเผยแผ่ศาสนา เพราะมีลูกบ้านบางคนมาบอกว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้มาใช้การอธิษฐานรักษาโรคแล้วหาย จึงเริ่มสอบถามข้อมูล ซึ่งตอนนี้รู้เพียงว่าเป็นกลุ่มที่มาทำกิจกรรมทางศาสนา สวดมนต์ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าทุกวันอาทิตย์ประมาณ 17.00 น. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ส่วนในเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การเก็บเงินหรือการกระทำการที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือเรื่องเสียหายใดๆ ยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามาแต่อย่างใด
ทางด้าน นายสมร มงคลชัยเสรี ชาวบ้านหนองตะไก้ ที่ภรรยาได้เคยเข้าไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคริสตจักรดังกล่าว บอกว่า ภรรยาของตัวเองซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ทั้งโรคเบาหวาน ความดัน ซึ่งมีอาการเหนื่อย อ่อนแรงง่ายต้องไปพบแพทย์เป็นประจำ เมื่อทราบข่าวว่ามีการรักษาด้วยการอธิษฐานจิต ที่มีการรวมกลุ่มสวดมนตร์ทำกิจกรรมอยู่ในหมู่บ้าน ก็ลองเข้าไปร่วมกิจกรรม มาครั้งหนึ่ง ซึ่งในกิจกรรมจะมีการสวดมนต์อธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี โรคร้ายต่างๆ แต่กลับมาอาการของภรรยาก็ไม่เห็นจะดีขึ้น จึงไม่ได้กลับไปอีก เพราะตัวเองและภรรยาไม่เชื่อว่าเพียงแค่การสวดอ้อนวอนพระเจ้าจะช่วยให้โรคที่เป็นอยู่หายไปได้
แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล เพราะตัวเองไม่เห็นว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหรือชุมชนแต่อย่างใด เพราะไม่เห็นมีการเรียกเก็บเงินหรือบริจาคใดๆเลยทั้งที่เปิดทำกิจกรรมกันมาเกือบ 1 ปีแล้ว