แม่ฮ่องสอน - เจ้าหน้าที่ต้องสนธิกำลังกันอย่างหนักสกัดเครือข่ายมอดไม้แปรรูปส่งขายจีน..หลังจับกระบะติดคอกขนไม้เถื่อนทั้งประดู่-ไม้สักทอง ออกจากแม่เงา สบเมย บน ทล.105 กลางดึก ขยายผลค้นบ้านอำพรางกลางป่าแม่ยวม เจอซุกไม้สารพัดวิธี
นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (สาขาแม่สะเรียง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.6 (อำเภอสบเมย) ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย ทหาร ฉก.ทพ.36 ได้ร่วมกันขยายผลออกตรวจปราบปรามขบวนการไม้เถื่อนต่อเนื่อง
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สกัดจับรถกระบะติดคอก 2 คัน คือ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว สีขาว ทะเบียน จ.จันทบุรี และอีซูซู สีเทา ทะเบียน จ.เชียงใหม่ ขณะเดินทางมาจากบ้านแม่เงา ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 105 วิ่งผ่านด่านจุดตรวจบ้านแม่สวด อ.สบเมย ในช่วงกลางดึกของวันที่ 9 มิถุนายน 2567 มีลักษณะบรรทุกหนัก
เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจึงได้ขับรถติดตามจนถึงเส้นทางชนบทบ้านแม่คะตวน และแสดงตัวขอตรวจค้นพบของกลางเป็นไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 25 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 2.48 ลูกบาศก์เมตร จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน คือ นายสันติ อายุ 27 ปี อาศัยอยู่ ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ นายทวี อายุ 38 ปี ชาว ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายอดิศร อายุ 34 ปี ชาว ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ และนายอภิชัย อายุ 24 ปี ชาว ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
และเนื่องจากคดีนี้มีตัวผู้ต้องหาและของกลาง อีกทั้งมีการตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วง เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติด จึงมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สบเมยดำเนินคดีแล้วทำการขยายผลทราบว่ามีการนำไม้มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพื้นที่หมู่ 2 ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
บ้านหลังดังกล่าวไม่มีรั้วรอบขอบชิด อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งขวา ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบชายหนึ่งคนทราบชื่อภายหลังคือ นายเกียรติชัย อายุ 60 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่าไม่ใช่เจ้าของบ้านเป็นแค่ผู้มาอาศัย เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 92(4)
นายเกียรติชัยยินยอมและเป็นผู้นำทำการตรวจค้น โดยมีนายปิยาธร มโนสีลา ผู้ใหญ่บ้านแม่คะตวน หมู่ที่ 2 ต.สบเมย อ.สบเมย เป็นพยานการตรวจค้น พบไม้กระยาเลยแปรรูป (ไม้ประดู่), ไม้สักแปรรูป และไม้กระยาเลยท่อน (ไม้ประดู่) ไม่พบรูปรอยดวงตราของทางพนักงานเจ้าหน้าที่หรือรอยตรารัฐบาลขายตีประทับไว้ และไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ใดๆ มาก่อน
เบื้องต้นได้ทำการตรวจยึดไม้กระยาเลยแปรรูป (ไม้ประดู่) 17 แผ่น ปริมาตร 1.64 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายที่รัฐพึงได้รับเป็นเงิน 114,800 บาท ไม้สักแปรรูป 18 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.82 ลูกบาศก์เมตร มูลค่า 98,400 บาท และไม้กระยาเลยท่อน (ไม้ประดู่) 5 ท่อน ปริมาตร 0.82 ลูกบาศก์เมตร มีมูลค่า 28,700 บาท
ทั้งหมดถูกซุกซ่อนสารพัดวิธี ทั้งกองเป็นพื้นบ้าน ทำเฟอร์นิเจอร์แบบหยาบเพื่ออำพราง รวมถึงนำไปแช่น้ำไว้ที่สวนหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้ของกลางนำส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรสบเมยและจะสอบสวนหาตัวการมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบแล้วว่าคนบงการหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่และเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของเครือข่ายส่งไม้แปรรูปไปจีนด้วย
