xs
xsm
sm
md
lg

พบ รศ.มหาวิทยาลัยดังนอนเสียชีวิตในรถยนต์ภายในปั๊มริม ถ.พระราม 2 สมุทรสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - รองศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยชื่อดังนอนเสียชีวิตปริศนาในรถยนต์ จอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนพระราม 2 ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม คาดโรคประจำตัวกำเริบ

เวลา 07.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนพระราม 2 ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้ออีซูซุ MU 7 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กต 7219 พิษณุโลก

ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิต ทราบต่อมาคือ รองศาสตราจารย์จิรวัฒน์ เพชรรัตน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/210 ม.7 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาวสีเทา เสียชีวิตสภาพปรับเบาะเอนนอนหงายอยู่ที่นั่งคนขับ ภายในรถไม่มีร่องรอยการต่อสู้ รื้อค้นข้าวของแต่อย่างใด ช่องใส่ของข้างประตูพบกระป๋องกาแฟ และกระป๋องน้ำอัดลมวางอยู่

น.ส.อุมาพร กาหลง อายุ 44 ปี แคชเชียร์ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันและเป็นผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ผู้ตายมักจะขับรถยนต์คันนี้มาจอดนอนในปั๊มเป็นประจำช่วงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.วันนี้ตนเห็นว่ารถยนต์คันนี้ควันขาวผิดปกติ เชื่อว่ามีคนอยู่ในรถ จึงเดินเข้าไปเคาะกระจกเรียก แต่ประตูรถไม่ได้ล็อกจึงเปิดประตูดู พบว่าคนขับเล็บมือสีคล้ำผิดปกติ และยังเหม็นกลิ่นปัสสาวะ จึงรู้ทันทีว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รองศาสตราจารย์จิรวัฒน์ เพชรรัตน์ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมไทย ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร การอ่านและการเขียนทางวิชาการ มีผลงานทางวิชาการมากมาย ก่อนเสียชีวิตนำรถมาหาเพื่อนที่ จ.สมุทรสงคราม  คาดว่าดึกแล้วจึงแวะปั๊มน้ำมันดังกล่าวเพื่อนอนหลับพักผ่อน กระทั่งเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายโรคประจำตัวอาจจะกำเริบ หรือไม่ก็สูดไอเสียรถยนต์จนทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพชันสูตรเบื้องต้นที่ รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงครามและจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น