เชียงราย – ททท.เปิดแคมเปญเที่ยวฉ่ำยามฝน ดัน 11 เส้นทางทัวร์ธรรมชาติ-ศิลปะ-สายมู ปลุกท่องเที่ยวกรีนซีซันพะเยา-เชียงราย โตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15-20% เผยปี 66 เฉพาะเชียงราย นทท.ทะลักกว่า 6 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 4 หมื่นล้าน คิดเป็นเกือบ 30%ของ GPP
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย พร้อมคณะ เปิดเผยถึงกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วง Green Season ของจังหวัดเชียงรายและพะเยา ภายใต้แคมเปญ "เที่ยวฉ่ำยามหน้าฝนที่เชียงราย" และ "สุขทันที..ที่เที่ยวพะเยา in Green Season" ที่ร้าน Yayo Coffee Farm ดอยช้าง จ.เชียงราย
สำนักงานการท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย รับผิดชอบส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ 2 จังหวัด คือ เชียงรายและพะเยา ซึ่งถ้าดูตัวเลขการท่องเที่ยวในปี 2566 ที่ผ่านมา ถือว่าภาพรวมค่อนข้างพอใจ เชียงรายมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน ทั้งนักท่องเที่ยวพักค้าง-ไม่พักค้างหรือที่เรียกว่านักทัศนาจร ทั้งหมด 6,140,000 กว่าคน เพิ่มขึ้น 10% สร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงราย 46,000 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%
ขณะที่ GPP หรือว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดเชียงราย ประมาณ 110,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากการท่องเที่ยวที่เข้ามาประมาณ 40,000 กว่าล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% เรียกว่าการท่องเที่ยวมีบทบาทต่อเศรษฐกิจเชียงรายค่อนข้างสูงทีเดียว
“จริงๆเศรษฐกิจของเชียงรายจะขึ้นอยู่ภาคการเกษตร เป็นสัดส่วนสูงสุด รองลงมาคือการท่องเที่ยวและบริการ แล้วก็เรื่องของอุตสาหกรรม ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดขนาดเล็ก-ขนาดกลาง”
การท่องเที่ยวของเชียงรายในปี 66 เรามีปัจจัยปัจจัยบวกเรื่องแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย คือ 1แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ความสวยงามของภูและดอย ดอกไม้เมืองหนาว ถือว่าเด่นมากๆในภาคเหนือ สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงปลายฝนต้นหนาว ประมาณช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ธรรมชาติจะเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ค่อนข้างดีมาก
ส่วนที่ 2 เชียงรายมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลป์ศิลปะ เรื่องของอาร์ต ในปีที่ผ่านมารวมทั้งต้นปีนี้ เชียงรายมีงานใหญ่ก็คือ เชียงรายเบียนนาเล่ ตั้งแต่เดือนธันวาคม66-เมษายน 67 เป็นงานใหญ่ในระดับประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยแล้วก็ชาวต่างชาติเข้ามา จึงมั่นใจว่าในปี 2567 จะมีการเติบโตต่อเนื่อง
แต่ห้วงต้นปี เราก็มีปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว คือช่วงที่มี PM 2.5 ยังดีที่มีการควบคุมแม้ว่าไม่ได้ทั้งหมด แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแลละจังหวัดใกล้เคียง ยังมีค่า PM 2.5 ไม่สูงมาก ทำให้เรียกว่าปัจจัยลบยังไม่มี มีการคอนโทรลได้ดีพอสมควร
ขณะที่ช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปถึงสิงหาคมหรือกันยายน เป็นช่วงที่มีความท้าทาย เป็นฤดูฝน หรือกรีนซีซัน อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ด้วยสภาพธรรมชาติหน้าฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางท่องเที่ยวเลย ซึ่งอาจจะต่างจากเมื่อก่อนที่เรามีฝนเรียกว่าค่อนข้างเยอะ แล้วมีอุทกภัยก็เกิดขึ้นบ้างในอดีต ปัจจุบันฝนไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน เรามองว่าการท่องเที่ยวของช่วงกรีนซีซั่นเป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวอีกมุมหนึ่ง
ช่วงกรีนซีซั่น ของภาคเหนือรวมทั้งเชียงรายและพะเยา ทาง ททท.สำนักงานเชียงราย ได้มีแคมเปญ เที่ยวฉ่ำยามหน้าฝนที่เชียงราย ส่วนพะเยาใช้แคมเปญว่า สุขทันทีที่เที่ยวพะเยาอินกรีนซีซั่น มีรูทเส้นทางท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนทั้ง 2 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 11 เส้นทางด้วยกันเชียงรายประมาณ 7 เส้นทาง พะเยา 4 เส้นทาง ซึ่งจะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติศิลปะวัฒนธรรม เรื่องท่องเที่ยวสายมูสายศรัทธา
นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษคือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 3 เดือนเต็ม กรณีเชียงราย ได้ร่วมกับโรงแรม 30 กว่าแห่ง เมื่อนักท่องเที่ยวเช็คอินรับคูปอง ซึ่งมี 3 ประเภท 1.คูปอง 100 บาท เป็นส่วนลดร้านคาเฟ่ ไม่ต่ำกว่า 200 แห่งทั้งในเมืองและนอกเมือง 2.คูปองร้านอาหาร เช็คอินได้ 200 บาท และ 3.ส่วนลดเรื่องสุขภาพ นวด สปาเช็คอินได้ 200 บาท นักท่องเที่ยวที่มาก็เลือก 1 ประเภท ส่วนพะเยาถ้าเช็คอินโรงแรม 10 กว่าแห่งได้ส่วนลดทันที 100 บาท ให้สิทธิ 1,000 สิทธิ และตั้งแต่เดือนกรกฏาคมสิงหาคม เมื่อเช็คอินจะได้คูปองร้านอาหาร 200 บาท
“แคมเปญนี้เราตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 5,000 คน แต่ที่จริงเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยว เพื่อบอกว่า ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงรายและพะเยามาช่วงกรีนซีซั่นหน้าฝน มีแต่ความเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์ แล้วก็มีแหล่งเที่ยวสวยงาม ที่อาจจะมีสัมผัสได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เราคาดหวังว่านักท่องเที่ยว อาจจะโตไม่ต่ำกว่า 15-20%”
