สกลนคร-จังหวัดสกลนคร ส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สินค้า หรือGI เพิ่มเติม เตรียมเสนอ นมวาริช เนื้อครามสกลนคร และ น้ำแร่สกลนคร จัดทำคำขอขึ้นทะเบียนจีไอ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด
วันนี้(7 มิ.ย.)ที่ห้องประชุมพระธาตุเชิงชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสกลนคร(หลังใหม่) นายวีระ ฤกษ์วาณิชกุลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานประชุมการส่งเสริมการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายวีระ ฤกษ์วาณิชกุลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริม ให้มีการขึ้นทะเบียน สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของจังหวัดสกลนคร เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จะเป็นเครื่องมือทางการค้า เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และหาแนวทางที่เหมาะสมในการให้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย ตลอดจนสนับสนุนให้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มีระบบการบริหารจัดการที่ดี เป็นเครื่องมือในการเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมการตลาด
โดยจังหวัดสกลนคร มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร หมากเม่าสกลนคร น้ำหมากเม่าสกลนคร และ เนื้อโคขุนโพนยางคำ ซึ่งสินค้า เหล่านี้ จะต้องมีการ ขออนุญาตใช้ตราสินค้า GI คราวละ 2 ปี โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร จะได้มีการประสานในการดำเนิน การขอต่อใบอนุญาตเพื่อใช้ตราสัญลักษณ์ GI ต่อไป
อย่างไรก็ตาม จังหวัดสกลนคร ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของสินค้า อีก 3 ชนิด คือ "นมวาริช" โดยสหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด ซึ่งผลิตน้ำนมโคคุณภาพสูง จากโคนมพันธุ์ขาว-ดำ พันธุ์โฮนสไตน์ฟรีเชียน สายเลือด 100% ผ่านกระบวนการผลิตน้ำนมโคตามมาตรฐาน GMP และ HACCP "เนื้อครามสกลนคร" ซึ่งเป็นสีย้อม ธรรมชาติที่ได้จากใบคราม เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดสกลนคร ที่สืบ ทอดกันมา จากรุ่นสู่รุ่น
โดยจังหวัดสกลนคร มีต้นครามที่ปลูกและเก็บเกี่ยวจำนวน 2 สายพันธุ์ คือต้นครามใหญ่ ลักษณะฝักโค้งงอ ใบรี และต้นครามน้อย ลักษณะฝักตรง ใบมน และ "น้ำแร่สกลนคร" เป็นน้ำแร่คุณภาพสูง ผลิตจากแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เทือกเขาภูพาน ซึ่งเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ผ่านการตรวจแร่ธาตุในน้ำจากกองวิเคราะห์น้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยพบแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ได้แก่แคลเซียม โซเดียมไบคาร์บอเนต ผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐาน GMP และHACCP ทั้งนี้ ได้มีการมอบหมาย หน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพ เพื่อดำเนินการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของสินค้าทั้ง 3 ชนิด ดังกล่าว
