เชียงใหม่ - เหยื่อโรงงานพลุระเบิดดอยสะเก็ดเตรียมบุกยื่นหนังสือให้ "เศรษฐา" นายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่เชียงใหม่ หวังเรียกร้องความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุแล้วเกือบปี แต่คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยเจ้าของโรงงานต้นเหตุยังลอยนวล และไม่เคยให้การช่วยเหลือเยียวยาใดๆ โดยไม่มีแม้กระทั่งคำขอโทษ
วันนี้ (6 มิ.ย. 67) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายสาธิต คำหน่อแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลสันปูเลย เป็นประธานประชุมร่วมกับเจ้าของบ้านเกือบ 40 หลังคาเรือน ในพื้นที่บ้านสันทุ่งใหม่ ตำบลสันปูเลย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโรงงานพลุและดอกไม้ไฟระเบิด ส่งผลทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 66 แต่จนถึงปัจจุบันที่ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว ปรากฏว่าทางเจ้าของโรงงานพลุที่ระเบิดยังไม่เคยจ่ายเงินรับผิดชอบค่าเสียหายและเยียวยาใดๆ แม้แต่บาทเดียว โดยมีเพียงทางเทศบาลฯ ที่ได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้ผู้ประสบเหตุเป็นเงินรวมหลายแสนบาท
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือเรียกร้องความเป็นธรรมและรักษาสิทธิ์ที่ผู้ประสบเหตุควรจะได้รับ ซึ่งในการประชุมมีการให้ข้อมูลว่าจากการตรวจสอบประวัติของโรงงานพลุดังกล่าวพบว่าเคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง รวมทั้งครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 67 ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ทราบว่ากำลังกลับเข้ามาดำเนินกิจการอีกครั้งในพื้นที่ตำบลสันปูเลย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและเจ้าของอาคารทราบเรื่องจึงยกเลิกการให้เช่าและย้ายออกไป โดยไม่ทราบว่าไปที่ใด ส่วนการดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าของโรงงานพลุนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่ายังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุยังไม่ได้ผลสรุปที่แน่ชัดของการระเบิดดังกล่าว ซึ่งทำให้ผู้ประสบเหตุต่างรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาทางเจ้าของโรงงานพลุไม่เคยแม้แต่กล่าวคำขอโทษ จึงเกรงว่าคดีจะเงียบหายและไม่ได้รับการชดใช้เยียวยาใดๆ จากทางเจ้าของโรงงานพลุ
เบื้องต้นการประชุมหารือในครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย. 67) ทางนายกเทศบาลตำบลสันปูเลยจะนำเจ้าของบ้านเรือนที่เป็นผู้ประสบภัยจากเหตุโรงงานพลุระเบิดดังกล่าว เข้าพบและยื่นหนังสือต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดีกับทางเจ้าของโรงงานพลุ และช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้เข้มงวดวางแนวทางควบคุมโรงงานพลุดอกไม้ไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก