กาญจนบุรี - โซเชียลประสานเสียงวิจารณ์ยับ บัสนำเที่ยวผู้โดยสารเต็มคันขับย้อนศร โนสนโนแคร์ผู้ร่วมทาง บนถนนทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี-แก่งเสี้ยน หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “เพจคนเมืองกาญจน์ 2 (รีเทิร์น)” ได้แชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ชื่ออะไร ยังคิดไม่ออก” โดยเป็นคลิปรถบัสนำเที่ยวปรับอากาศ 2 ชั้น สีชมพูมีลายรอบคัน กำลังขับย้อนศรบนถนนทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี-แก่งเสี้ยน หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
โดยคลิปวิดีโอเผยให้เห็นรถบัสคันดังกล่าวกำลังขับย้อนศรจากแยกแก่งเสี้ยนเลียบทางเท้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะขับข้ามไปเกาะกลางยูเทิร์น เพื่อข้ามฝั่งถนนมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจน์ โดยมีเสียงของผู้ถ่ายคลิปพูดว่า “งานนี้นี่ประเทศไทย ผู้โดยสารเต็มคัน ย้อนศรแม่งซะงั้น ผู้โดยสารไม่ตกใจแย่เหรอวะเนี่ย ยังไงครับความมักง่าย” พร้อมซูมไปที่ทะเบียนของรถบัสคันดังกล่าว ซึ่งเห็นหมายเลขทะเบียนอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ยังระบุด้วยว่า “#ความมักง่าย..ของเห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงความปลอดภัยของเพื่อนมนุษย์บนท้องถนนกันเลย..(คุณขับรถแบบนี้ใครจะกล้าใช้บริการคุณอีก)”
หลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปทำให้มีผู้เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก โดยแสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันถึงพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดกฎหมายจราจรของคนขับรถคันดังกล่าวซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น “แหมม..ถ้ามีทะเบียนหรือป้ายบอกบริษัทชัดเจน อยากให้ยึดใบอนุญาตคนขับตลอดชีวิตครับ แบบนี้ไม่สมควรขับรถให้บริการผู้โดยสารเป็นอย่างยิ่ง นิสัยมักง่าย แบบนี้อุบัติเหตุไม่เกิดตอนนี้แต่กับคนขับนิสัยแบบนี้จะต้องเกิดสักวัน จะพาคนอื่นเดือดร้อนอันตรายถึงชีวิต เสียทรัพย์ เสียชีวิต” “อันตราย กับคนอื่นๆ ที่ใช้ถนนมาก มักง่ายสุด” “ไม่นึกถึงเพื่อนบนท้องถนน ก้อนึกถึงคนที่ใช้บริการคุณก็ได้มั้ง” “ชาวบ้านเขาจะเดือดร้อนเพราะความมักง่าย รถทางตรงเร็วมากเส้นนี้”
พร้อมถามถึงใบอนุญาตขับขี่ว่าสอบผ่านมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่คนขับรถรับจ้างสาธารณะ บรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก ควรจะต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ขณะที่ผู้โพสต์ระบุด้วยว่า ได้แจ้งทางกรมการขนส่งทางบกให้ทราบถึงพฤติกรรมของคนขับรถคันดังกล่าวเพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายแล้ว เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และนอกจากจะเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารที่นั่งโดยสารมาเต็มคันแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่ใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย