พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อยุธยาเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังมีการบุกค้นบริษัท เอกอุทัย จำกัด สาขาอุทัย พบของกลางเพิ่ม พร้อมบ่อฝังกลบกากน้ำกรด ที่ถูกลักลอบฝังกลบกากสารเคมี แค่เจาะดินพบสารเคมีประเภทกรดเกิดการพวยพุ่งขึ้นจากดินทันที
บ่ายวันนี้ (31 พ.ค.) ณ ห้องประชุมมหาธาตุ อาคาร 1 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมการเตรียมการแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้บริษัท เอกอุทัย จำกัด สาขาอุทัย โดยมี พล.ต.ต โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธญา ปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุตสาหกรรมจังหวัด นายอำเภออุทัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมนำหมายศาลเข้าค้นบริษัทเอกอุทัย สาขาสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยึดเอกสารจำนวนมาก พร้อมกับมีการขุดเจาะบริเวณที่มีข้อมูลว่าเป็นบ่อฝังกลบกากน้ำกรด โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำรถแบ็กโฮเข้าเจาะและตักสำรวจบนพื้นดินที่มีข้อมูลว่าถูกลักลอบฝังกลบกากสารเคมีที่เป็นน้ำกรด และเพียงแค่ตักลงครั้งแรกพบสารเคมีประเภทกรดพวยพุ่งขึ้นจากดินทันที
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขุดเจาะสำรวจในจุดอื่นใกล้เคียงกันพบสารเคมีทั้งที่มีสภาพเป็นของเหลวที่จับตัวเป็นก้อนเหนียว และที่มีสภาพเป็นฟองเพราะการเกิดปฏิกิริยาของสารเคมีพุ่งออกมาหลายพื้นที่ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ขุดเจาะ สารเคมีได้ส่งกลิ่นเหม็นฉุนแสบจมูกเป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สุ่มขุดเจาะที่ดินติดกับกำแพงบริษัทเอกอุทัย มีลักษณะถูกปลูกเป็นป่าไผ่และพืชสวนไว้บนหน้าดิน การขุดเบื้องต้นพบดินปนเปื้อนมีกลิ่นสารเคมีและพบการรั่วไหลและซึมไปถึงพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเคมีดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการประชุมเพื่อหารือแนวทาง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเคมี
ด้านความคืบหน้าการดำเนินคดี พล.ต.ต โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหลักฐาน พนักงานสอบสวนตรวจสอบพบหลักฐานการปลอมแปลงเอกสารจริง และคาดว่าน่าจะโยงไปถึงโรงงานเก็บสารเคมีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา
จากการสอบสวนนายโอภาส บุญจันทร์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว ส่วนเรื่องการลอบวางเพลิงในโรงงานเขตพื้นที่ อ.ภาชี ขณะนี้มีหลักฐานบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วน ต้องรอหลักฐานให้ชัดเจนก่อน คาดว่าน่าจะจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางเพลิงในเร็วๆ นี้ โดยพนักงานสอบสวนคุมตัวไปยื่นฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว
