เชียงใหม่ - สวนสัตว์เชียงใหม่สุดเศร้า! ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงกรณีจิงโจ้แดงหลุดจากคอกและพบกลายเป็นซากตายอยู่ในน้ำกลางป่าดอยสุเทพโดยไม่มีร่องรอยการถูกกัดหรือทำร้ายจากสัตว์อื่น เบื้องต้นคาดสาเหตุมาจากการตกน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ เตรียมส่งผ่าชันสูตรซากชี้ชัด
ความคืบหน้ากรณีจิงโจ้แดงของสวนสัตว์เชียงใหม่หลุดออกจากคอกกักแล้ววิ่งสู่ถนนทางขึ้นดอยสุเทพ ก่อนที่จะเตลิดหายเข้าไปในป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (29 พ.ค. 67) โดยเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังทั้งจากสวนสัตว์เชียงใหม่, อุทยานฯ, ทหาร และจิตอาสา ออกค้นหาตลอดทั้งวันของวานนี้และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (30 พ.ค. 67) กระทั่งช่วงบ่ายที่ผ่านมาพบซากจิงโจ้แดงตัวดังกล่าวตายอยู่ในแอ่งน้ำด้านล่างของน้ำตกห้วยช่างเคี่ยน ห่างจากสวนสัตว์เชียงใหม่ประมาณ 2 กิโลเมตรนั้น
ช่วงเย็นวันนี้ (30 พ.ค. 67) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และสัตวแพทย์หญิง กรรณิกา จันทรังษี รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันนี้ ทีมค้นหาได้พบร่างจิงโจ้แดงที่บริเวณด้านล่างน้ำตกของลำห้วยช่างเคี่ยน ห่างจากสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร
สำหรับจุดดังกล่าวนั้นมีลักษณะพื้นที่เป็นโขดหินขนาดใหญ่และมีร่องน้ำลึกประมาณ 1 เมตร ปกคลุมด้วยพงหญ้าและต้นไม้ค่อนข้างหนาทึบ ซึ่งหลังจากที่ได้พบร่างแล้วได้ตรวจสอบและเคลื่อนย้ายร่างจิงโจ้ออกจากพื้นที่จนแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 15.30 น. เพื่อนำไปชันสูตรซากตามกระบวนการ โดยเบื้องต้นร่างจิงโจ้แดงที่พบนั้นมีบาดแผลเล็กน้อยจากการขีดข่วน และไม่มีร่องรอยการถูกกัดหรือทำร้ายจากสัตว์อื่น อย่างไรก็ตามจะทำการชันสูตรซากเพื่อระบุสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
ทั้งนี้ นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นร่างจิงโจ้แดงที่พบมีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย คาดว่าเกิดระหว่างการกระโดดอยู่ในป่า แต่ไม่มีร่องรอยการถูกกัดหรือถูกทำร้าย ขณะที่จุดที่พบร่างเป็นแอ่งที่อยู่ด้านล่างน้ำตกของห้วยช่างเคี่ยน จึงสันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้ที่สาเหตุการตายน่าจะมาจากการตกลงไปในน้ำ ส่วนเหตุที่จิงโจ้หลุดออกไปได้นั้น เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงกำลังจะเปิดประตูคอกกักเข้าไป แต่ปรากฏว่าจิงโจ้ได้กระโดดวิ่งสวนออกมา และเมื่อพยายามวิ่งไล่ตาม ยิ่งทำให้จิงโจ้วิ่งเตลิดออกไป ซึ่งปกติแล้วสวนสัตว์เชียงใหม่มีการซักซ้อมแผนกรณีสัตว์หลุดปีละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์จริงไม่เหมือนการซ้อม โดยแนวทางการป้องกันเหตุในอนาคตนั้นจะทำการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุให้เข้มข้นยิ่งขึ้นและบ่อยครั้งกว่าที่ผ่านมา
ขณะที่สัตวแพทย์หญิง กรรณิกา จันทรังษี รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์เชียงใหม่ บอกว่า โดยสภาพร่างจิงโจ้แดงที่พบอยู่ในน้ำนั้น เบื้องต้นสันนิษฐานได้ว่าสาเหตุการตายอาจจะมาจากการจมน้ำ เพราะตามธรรมชาติจิงโจ้เป็นสัตว์ที่ว่ายน้ำไม่เก่งอยู่แล้ว แต่ระดับน้ำลึกกว่าความสูงของจิงโจ้ ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นโขดหินและตลิ่งสูงชัน รวมทั้งมีพงหญ้าและต้นไม้ขึ้นรก จึงทำให้ไม่สามารถดันตัวขึ้นมาได้ ส่วนปัจจัยจะเนื่องมาจากระบบอวัยวะภายในล้มเหลวหรือไม่นั้น ต้องรอผลการชันสูตรซาก ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป