ระยอง - ชาวบ้านหนองพะวา จี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเร่งขนน้ำเสียชะสารเคมีออกจากบ่อรับน้ำเสียโรงงานวินโพรเสส หลังปริมาณน้ำเริ่มสูงต่อเนื่องหวั่นล้นทำพังทลายสร้างความเดือดร้อนชาวบ้าน ส่วนการดำเนินคดีเจ้าของโรงงาน ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เผยผู้บังคับบัญชาตามจี้ทุกวัน
วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหนองพะวา ซึ่งมีที่พักอาศัยอยู่ใกล้โรงงานเก็บสารเคมี วิน โพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่าแม้กลิ่นจากสารเคมีที่ถูกไฟไหม้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาจะเริ่มเบาบางลง แต่ปริมาณน้ำเสียที่ชะสารเคมีไหลออกจากโรงงานลงสู่บ่อรองรับน้ำเสียของโรงงานเพื่อรองรับน้ำฝนที่ชะสารเคมีภายในโรงงานป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่ลำรางสาธารณะและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน เริ่มมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมา อบจ.ระยอง จะมีการขนดินเข้ามาเสริมคันดินให้สูงขึ้นเพื่อรองรับฝนที่กำลังจะตกหนักในเร็วๆ นี้ก็ตาม แต่หวั่นว่าอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับน้ำเสียใหม่ เนื่องจากหลังคาอาคารที่ถูกไฟไหม้ในพื้นที่กว่า 50 ไร่ได้รับความเสียหายหมด จึงเกรงว่าหากมีฝนตกลงมาจะทำให้มีน้ำไหลลงบ่อของโรงงานอีกเป็นจำนวนมาก
โดยชาวบ้านได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขนน้ำเสียในบ่อของโรงงานออกไปกำจัด และกรมโรงงานจะรีบดำเนินการสูบนำไปบำบัดก่อนที่บ่อรับน้ำจะพังทลายจนเกิดความเสียหายต่อชาวบ้าน
ด้าน พ.ต.ท.วิรัตน์ เตชนันท์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย เผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีโรงงานวินโพรเสส ที่ถูกไฟไหม้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานใหม่ เนื่องจากคดีมีความละเอียดค่อนข้างมาก แตกต่างจากคดีของ สภ.มาบตาพุด ที่เจ้าหน้าที่พบหลักฐานจำนวนมาก
"ส่วนคดีเก่าเรื่องการกำจัดขยะสารเคมี ตั้งแต่ปี 2563 นั้นศาลได้ตัดสินแล้ว ซึ่งเหตุไฟไหม้ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและหาพยานหลักฐานรวบรวมเสนอต่อศาลจังหวัดระยอง ซึ่งขณะนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจติดตามทุกวัน" พ.ต.ท.วิรัตน์ กล่าว