เชียงใหม่ - จนท.ระดมกำลังทั้งในส่วนของสวนสัตว์เชียงใหม่, อุทยานฯ และทหาร ลุยป่าดอยสุเทพ เร่งติดตามค้นหาตัว “จิงโจ้” ที่หลุดออกคอกกักตั้งแต่วานนี้ เน้น 3 จุดสำคัญที่พบร่องรอยล่าสุด พร้อมขยายรัศมีค้นหาให้พบโดยเร็วที่สุด
ความคืบหน้าเหตุจิงโจ้แดงของสวนสัตว์เชียงใหม่หลุดออกจากส่วนจัดแสดงตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (29 พ.ค. 67) โดยวิ่งขึ้นไปตามถนนเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ และหายเข้าไปในป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งสวนสัตว์เชียงใหม่และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพฯ ได้ระดมกำลังกันติดตามค้นหาในป่าตลอดทั้งวันวานนี้ โดยพบร่องรอยของจิงโจ้แดง ทั้งรอยเลือดและรอยเท้า แต่ยังไม่พบตัวนั้น รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงเช้าวันนี้ (30 พ.ค.67) นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ และกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 33 รวม 40 คน ร่วมวางแผนการปฏิบัติการค้นหาจิงโจ้แดง
โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้นำตัวอย่างมูลของจิงโจ้มาให้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามค้นหาดูลักษณะว่าเป็นอย่างไรและแตกต่างจากสัตว์อื่นๆ เช่นใด รวมทั้งให้ข้อมูลพฤติกรรมของจิงโจ้ว่าชอบอยู่ในพื้นที่โล่ง เพื่อเป็นหลักช่วยในการติดตามค้นหา พร้อมเน้นย้ำว่าหากพบตัวให้ทำการเฝ้าติดตาม และล้อมไว้ก่อนที่จะแจ้งให้ทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของสวนสัตว์เข้าไปปฏิบัติการ เพราะจิงโจ้เป็นสัตว์ที่ตื่นตระหนกได้ง่าย จึงเกรงว่าจะได้รับอันตรายหากเข้าจับตัวหรือประชิดตัว อีกทั้งหากได้รับบาดเจ็บทีมสัตวแพทย์จะได้เข้าช่วยปฐมพยาบาลได้ทันท่วงที
ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยเปิดเผยว่า ในวันนี้ทาง มทบ.33 ได้จัดกำลังพล 6 นายเพื่อร่วมปฏิบัติการค้นหาจิงโจ้แดงด้วย เบื้องต้นแบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุดปฏิบัติการ เพื่อค้นหา 3 จุดสำคัญ โดยจุดแรกทำการค้นหาด้านทิศตะวันออกของอุทยานฯ ไปตามเส้นทางที่น้ำตกห้วยช่างเคี่ยน ส่วนอีกชุดปฏิบัติการ ค้นหาจากบริเวณรอบ ๆ น้ำตกวังบัวบาน และห้วยแม่หยวกน้อย ซึ่งเน้นขยายรัศมีการค้นหาให้กว้างขึ้นจากวานนี้ และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ที่จะมีกำลังมาเสริมเพิ่ม จะเข้าดำเนินการค้นหาบริเวณสถานีวัดความสั่นสะเทือนจังหวัดเชียงใหม่ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ โดยเน้นขยายรัศมีการค้นหาให้กว้างขึ้นจากวานนี้
ด้านทีมสัตวแพทย์ของสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้มีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา โดยหากพบตัวจิงโจ้แดงจะได้เข้าช่วยเหลือทันที โดยที่สำคัญมีความเป็นห่วงว่า จิงโจ้แดง อาจจะตายได้ หากยังไม่พบตัวโดยเร็ว เนื่องจากไม่เคยออกจากคอกกัก
