xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! แกะรอย “รุต นครสวรรค์” เด็กเช็ดตู้-เซียนพระฉาว จำนำพระเก๊ตีเช็คเปล่าเจ้าเดียวเกือบ 900 ล้าน ซื้อบ้านหรู-ซูเปอร์คาร์เป็นตับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - แกะรอยเส้นทาง “รุต นครสวรรค์” จากเด็กท่าตะโก รับจ้างเฝ้าแผง-เช็ดตู้/เดินพระอยู่นครสวรรค์ ไต่เต้าจนเป็นกรรมการสมาคมพระเครื่องไทย ก่อนโดนจับฐานฉ้อโกง-พัวพันพระเก๊ เงินไม่ชัวร์ เช็คเด้ง พบเคยตุ๋นจำนำพระปลอมรายเดียว 93 ครั้ง-รวมเกือบ 900 กว่าล้าน ซื้อบ้าน-รถหรู/ซูเปอร์คาร์เป็นตับ



ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ได้ติดตามจับกุมตัว "รุต นครสวรรค์" เซียนพระดังวัย 34 ปี ชาวนครสวรรค์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลหลายท้องที่ ฐานความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คเด้งและฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 380 ล้าน คุมตัวขึ้นโรงพักดำเนินคดีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น

กลายเป็นข่าวโด่งดัง บรรดาเซียนพระและคนในวงการพระเครื่องต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน เพราะ "รุต นครสวรรค์" ได้ชื่อเป็นอดีตกรรมการตัดสินพระของสมาคมพระเครื่องแห่งประเทศไทยมาก่อน เคยให้คำนิยาม เซียนพระ ว่า..ลงทุนพระแท้ ไม่มีคำว่า แพ้

แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องฉาว..พระเก๊ เงินไม่ชัวร์ เช็คเด้ง ตีเช็คโดยที่ไม่มีเงิน ทั้งๆ เอาพระแท้ไปขาย กลับไม่ยอมส่งเงินคืนเจ้าของ เรียกว่า..เอาเงินสดมาหมุนฟรี

แหล่งข่าววงการพระเครื่อง จ.นครสวรรค์ รายหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายรายสำคัญ กล่าวว่า "รุต นครสวรรค์" มีบ้านอยู่ที่บ้านหัวพรวง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พ่อแม่เป็นชาวไร่ชาวนาธรรมดา โตขึ้นมาก็ได้ไปรับจ้างเฝ้าโต๊ะเฝ้าแผงพระอยู่ที่วี-สแควร์ นครสวรรค์ ซึ่งก็เฝ้าบ้างไม่เฝ้าบ้าง รวมทั้งยังรับจ้างเช็ดกระจกตู้พระเครื่อง และเดินพระด้วย

กระทั่งมีโอกาสเจอกับตน เขาก็มาคุยมาบอกว่ามีชีวิตที่ยากลำบากยืมเงินญาติก็ไม่ได้ จึงขอยืมเงินตน 10,000 บาท อ้างว่าจะเอาไปทำมาหากิน ตอนนั้นก็บอกไปว่าอย่าโกหกแล้วจะสนับสนุน ต่อมา "รุต นครสวรรค์" ก็กลายเป็นเซียนพระและเข้ามาหาตนอีก คราวนี้นำพระเครื่องมาจำนำ ซึ่งตนก็ย้ำเช่นเดิมว่าอย่าหลอกลวงกัน และ "รุต นครสวรรค์" ก็ยืนยันว่าตนมีพระคุณจะหลอกลวงได้อย่างไร

ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเหมือนลูกหลานด้วย จึงรับจำนำไว้..ครั้งแรก "รุต นครสวรรค์" นำพระหลวงพ่อเงินมาจำนำเมื่อเดือน ส.ค. 2560 เป็นเงิน 2,000,000 บาท ครั้งที่ 2 เป็นพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม เป็นเงิน 2,500,000 บาท จากนั้นก็ทยอยนำมาเรื่อยๆ รวม 93 ครั้ง เป็นเงินรวม 890,100,000 บาท ครั้งที่จ่ายมากที่สุดคือ 30 ล้านบาท


อยางไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป "รุต นครสวรรค์" กลับไม่นำเงินมาคืน พอทวงหลายครั้ง-แจ้งความ เรื่องถึงศาลกลับหลบหนีไป ตนจึงนำพระเครื่องที่รับจำนำจากรุต นครสวรรค์ ไปตรวจที่สถาบันรับตรวจสอบจำนวน 50 องค์ ปรากฏว่าเป็นพระปลอม 49 องค์ ซึ่งล้วนเป็นพระที่มีราคา ของจริงแค่ 1 องค์ ซึ่งเป็นองค์ที่ไม่มีราคาเท่าไหร่ ทำให้ตนนำของกลางที่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีอีก

“รุต มันขายเก่ง ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องพระ จู่ๆ กลับมีเงิน สามารถชุบตัวได้ ก็เพราะไปอยู่สมาคมพระเครื่องได้ ใช้ความเป็นกรรมการสมาคม ทำให้มีความน่าเชื่อถือ แต่ล่าสุด คำว่า กรรมการ ก็คงถูกปลดไปเรียบร้อย”

วิธีการที่เขาใช้ก็คือ จะอ้างกับเราว่าอันนี้เป็นพระของเสี่ยโน่นเสี่ยนี่ อยู่จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ อยู่เชียงใหม่ ใต้ก็ที่ภูเก็ต และทั่วไป อ้างว่าเสี่ยคนนั้นคนนี้ต้องการใช้เงิน บางคนเป็นเจ้ามือหวยด้วย เราก็นึกว่าจะไม่โกหกเพราะมันบอกว่ามันจะได้มีรายได้ และมีชีวิตที่ดีขึ้น


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า "รุต นครสวรรค์" เข้ามาหาตนเป็นเวลา 3 ปีตั้งแต่ปี 2560-2563 จากนั้นก็นำเงินไปซื้อตึกที่นครสวรรค์และกรุงเทพฯ รถก็ซื้อเยอะเท่าที่ทราบเป็นซูเปอร์คาร์ ลัมโบร์กินี, ปอร์เช่, แม็คคลาเรน, อัลพาร์ด, เบนซ์ ฯลฯ คาดว่ามีกว่า 20 คัน

หลังจาก "รุต นครสวรรค์" หลบหนีออกจากนครสวรรรค์ไปอยู่กรุงเทพฯ ตนก็ไม่รู้ว่าทรัพย์สินเหล่านี้เป็นอย่างไร ทราบเพียงว่าไปซื้อบ้านอยู่ที่ จ.นนทบุรี มูลค่า 17 ล้านบาท และตกแต่งอีก 6 ล้านบาท รวมทั้งซื้อตึกใกล้ๆ กันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่าทรัพย์สินรุต นครสวรรค์ จะมีเพียงเท่านี้ เพราะไม่ใช่เฉพาะเงินที่ได้จากตนเท่านั้น แต่ยังมีรายอื่นๆ ที่โดนไปคาดว่านับ 100 ล้านบาท บางรายโดนไป 20 ล้าน บางคนโดนไป 40 ล้าน ฯลฯ เยอะแยะไปหมด

สำหรับตนได้แจ้งความต่อตำรวจและตำรวจได้จับกุมตัวได้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้น "รุต นครสวรรค์" อ้างว่าจะยอมชดใช้หนี้ โดยนำพระเครื่องมาให้รวมทั้งนำไปขายเพื่อนำเงินมาคืนตนด้วยทำให้ตนได้ถอนแจ้งความ อย่างไรก็ตาม "รุต นครสวรรค์" กลับเจรจาซื้อพระเครื่องจากตนเพื่อชดใช้หนี้จำนวน 564 องค์ ราคาประมาณ 380 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเช็คที่มอบให้กับตนจำนวน 38 ใบ ใบละ 10 ล้านบาท กลับนำไปเบิกเงินไม่ได้ คือเด้งตั้งแต่ใบแรก จากนั้นก็ติดต่อกับ "รุต นครสวรรค์" ไม่ได้อีกเลย

ส่วนสาเหตุที่ตนเชื่อใจอีกครั้งเพราะเขาอ้างว่าจะเอาพระเครื่องของตนไปขายและเขียนเช็คให้เป็นหลักฐานด้วยจึงคิดว่าเขาคงกลัวจะติดคุก แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงว่า "รุต นครสวรรค์" ไม่กลัวการติดคุก


แหล่งข่าวพูดตอนท้ายว่าตนอยากให้ผู้เสียหายทุกคนได้ออกมาแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่าให้คนประเภทนี้อยู่ในสังคมได้อีกเพราะเป็นพวกหลอกลวงคนอื่นฝ่ายเดียว พูดคุยกับใครก็โกหกทุกเรื่อง พวกเราต่างทำมาหากินด้วยความเหน็ดเหนื่อยและสุจริตมาโดยตลอด จึงอยากจะได้ทรัพย์สินคืนบ้าง รวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของ "รุต นครสวรรค์" ด้วยว่ามีซุกซ่อนเก็บเอาไว้ที่ไหนบ้างด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น