ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - จนท.ชุดพญาเสือ-เหยี่ยวดง พร้อม หน.อุทยานฯ เขาใหญ่บุกค้นกุฏิวัด อ.ปากช่อง โคราช หลังได้รับแจ้งมีการลอบล่าสัตว์นำมาซุกซ่อนไว้ ตะลึง ในตู้แช่เย็นพบซากสัตว์ป่าอื้อ ทั้งหมีควาย อุ้งเท้าหมี หัวกระทิง หัวเลียงผา เก้ง เจ้าอาวาสยังปฏิเสธแต่ จนท.ไม่ปักใจเชื่อแจ้งข้อหา มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครอง
วันนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) พร้อมด้วย นายนาวี ช้างภิรมย์ หัวหน้าชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ร่วมกันลงพื้นที่เข้าตรวจสอบกุฏิพระ ภายในวัดศึกอนุกุลวราราม ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังได้รับแจ้งว่ามีบุคคลลักลอบไปล่าสัตว์ป่าหลายชนิดแล้วนำมาซุกซ่อนไว้
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงวัดดังกล่าวพบ พระปลัดกิตติชัย วรธัมโม เจ้าอาวาสวัด จึงขอตรวจค้นตู้เย็นในกุฏิที่ไม่มีพระจำวัด พบซากหมีควาย, หัวกระทิง 1 หัว, หัวเลียงผา 2 หัว, อุ้งเท้าหมี 4 อัน, เก้งน้ำหนัก 14.4 กิโลกรัม 1 ตัว และของกลางอื่นๆ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เจ้าหน้าที่จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลางเพื่อทำการตรวจสอบ
นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากคนในวัดแห่งนี้เพราะทนต่อพฤติกรรมของกลุ่มนี้ไม่ไหว โดยเอาวัดซึ่งเป็นสถานที่อภัยทานมาเป็นสถานที่นำซากสัตว์ป่ามาซุกซ่อนไว้ อาจทำให้พระในวัดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมัวหมองด้วย จึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งวัดนี้อยู่ห่างจากเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ไม่มากนัก เบื้องต้นได้รายงานให้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทราบและนำส่ง พ.ต.ท.อวยชัย พรหมวงศ์ สว.(สอบสวน) สภ.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสาน พระครูอุดมสุขโกศล เจ้าคณะตำบลพญาเย็น ในฐานะพระผู้บังคับบัญชา และนิมนต์ พระปลัดกิตติชัย วรธัมโม เจ้าอาวาสวัด มาสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่รู้ซากสัตว์ดังกล่าวเป็นของใคร นำมาซุกซ่อนอยู่ในกุฏิที่ไม่มีพระจำวัดอยู่ได้อย่างไร แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อและได้แจ้งข้อหา พระปลัดกิตติชัย วรธัมโม เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ในข้อหา “มีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ไว้ในความครอบครอง" และเร่งสอบสวนขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องร่วมการล่าสัตว์ป่าในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
