จันทบุรี - มีเฮชาวสวนลำไยเมืองจันทบุรี ผู้ว่าฯ นำคณะนักธุรกิจและส่วนราชการประชุมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาลำไยกับผู้ค้าในประเทศจีน ก่อนเซ็นสัญญาซื้อขายกว่าแสนตันในปีนี้ ตั้งเป้าทำตลาดร่วมกัน 3 ปี มูลค่าหลักหมื่นล้านบาท
วันนี้ (26 พ.ค.) นายจงหัว ไอ่ ประธานกรรมการบริษัท ไชน่าจินกว่อหยวน พร้อมด้วยนายนิค ชาง ผู้จัดการฝ่ายการต่างประเทศ จ.จันทบุรี ได้ประชุมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมลำไยไทย ครั้งที่ 2 ร่วมกับนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และ ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการบริหารของสมาคม ณ โรงแรม FOUR POINTS BY SHERATON หย่งชวน
โดยในที่ประชุมได้มีการตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการพัฒนาการตลาดส่งออกให้เกษตรกรในพื้นที่ จ.จันทบุรี และจะมีการส่งลำไยไปประเทศแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
ส่วนปัญหาเรื่องสารตกค้างในลำไยที่เกษตรกรยังไม่ค่อยมีความเข้าใจในการใช้สารเคมีจนส่งผลกระทบต่อการส่งออกไปประเทศปลายทางจนถูกระงับการส่งออกนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จะร่วมกับสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี และสมาคมชาวสวนลำไยจังหวัดจันทบุรี เดินหน้าหาทางแก้ไขด้วยการสนับสนุนให้นักวิชาการด้านการเกษตร ทำการวิจัยเกี่ยวกับสารเคมีที่เกษตรกรสามารถนำมาใช้ได้โดยไม่มีสารตกค้าง
รวมทั้งสนับสนุนให้ชาวสวนลำไยในพื้นที่สร้างสวนลำไยต้นแบบที่ไม่มีสารตกค้าง เพื่อให้สามารถส่งออกไปยุโรปและอเมริกาได้ เพื่อให้สามารถกำหนดราคารับซื้อให้สูงขึ้นได้
ทั้งนี้ การประชุมร่วมกันระหว่างภาคเอกชนในประเทศจีน และส่วนราชการของจังหวัดจันทบุรีเกิดขึ้นภายหลังจากที่ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และ ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี ได้เข้าหารือกับนายช่าง เสี่ยวหยง ผู้ว่าการหย่งชวน ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของการผลิต เศรษฐกิจการแปรรูปที่สำคัญของมหานครฉงชิ่ง ประเทศจีน
และยังได้มีการหารือพูดคุยความสัมพันธ์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมร่วมกันระหว่างจังหวัดจันทบุรีกับผู้ว่าการเมืองหย่งชวน และในโอกาสเดียวกัน บริษัท ไชน่าจิงกว่อหยวน ยังได้ทำสัญญาที่จะซื้อลำไยจากเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่ จ.จันทบุรี จำนวน 10,000 ล้านบาท ภายในเวลา 3 ปี หลังจากที่ในปีนี้บริษัทได้รับซื้อลำไยจากเกษตรกรในพื้นที่มากกว่า 1 แสนตัน ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่ จ.จันทบุรี
ขณะเดียวกัน จากการสำรวจตลาดทุเรียนที่จำหน่ายในเมืองหย่งชวน ยังพบอีกว่าทุเรียนจากจันทบุรียังเป็นที่ต้องการของตลาดเนื่องจากเป็นทุเรียนที่มีคุณภาพและราคารับซื้อสูงกว่าทุเรียนหมอนทองจากแหล่งผลิตอื่นๆ ด้วย
ส่วนการนำคณะเดินทางสำรวจตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรนานาชาติซวงฟู่ ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของมหานครฉงชิ่ง และเป็นตลาดที่มีการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรจากประเทศต่างๆ มาจำหน่าย รวมทั้งทุเรียน มังคุด และลำไยจากจังหวัดจันทบุรี ตามคำเชิญของ บริษัท ซ่งซินหยวน อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าผลไม้จากจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะลำไยผลสดปีละ 50,000 ตัน หรือประมาณ 2,200,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
พบว่ามีทุเรียนจากจันทบุรีเข้าไปวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยราคาทุเรียนหมอนทองจากจันทบุรี เมื่อเทียบกับราคาทุเรียนหมอนทองจากที่อื่น พบว่า ทุเรียนหมอนทองจากจันทบุรีมีราคาสูงกว่าทุเรียนหมอนทองจากที่อื่นถึงกิโลกรัมละ 45-50 บาท และทุเรียนจันทบุรียังได้รับความนิยมมากกว่า เพราะมีคุณภาพที่ดีกว่าทุเรียนจากที่อื่น
