ประจวบคีรีขันธ์ - ททท.ภาคกลางเดินหน้าท่องเที่ยวการลดคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism ) เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวธรรมชาติ โชว์ไทยไม่ได้มีโลว์ซีซันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มีทั้งท่องเที่ยวธรรมชาติ ท่องเที่ยวสายศรัทธา ขาชิม ไปกินอาหารถิ่นที่มีอัตลักษณ์แตกต่างและโดดเด่นไม่เหมือนกัน
วันนี้ (26 พ.ค.) นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผอ.ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำนักงานภาคกลาง 9 สำนักงานดูแลทั้งหมด 17 จังหวัด ประเทศไทยไม่ได้มีโลว์ซีซันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เนื่องด้วยขณะนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวธรรมชาติ เราไม่ได้มีแค่สินค้าท่องเที่ยวสายศรัทธา แต่เราจะเชิญไปกินอาหารถิ่นที่มีอัตลักษณ์แตกต่างและโดดเด่นไม่เหมือนกัน
สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามในจังหวัดต่างๆ ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว นอกจากนั้น ยังจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวออกมาต่อเนื่อง เช่น สายศรัทธาที่เรามี 117 เกจิอาจารย์สังขารแก่กาลเวลา เมื่อทุกคนได้เดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ ในภาคกลาง มีพระเกจิอาจารย์ที่มีอภิญญาสูงส่ง สังขารท่านไม่เน่า ไม่เปื่อย มีลูกศิษย์มากมาย ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วเราได้เตรียมภาพมหามงคล ซึ่งปลุกเสกโดย 10 เกจิอาจารย์ในปัจจุบัน
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปรับได้ที่วัดนั้นๆ 117 วัด 114 เกจิอาจารย์ และที่เป็นไฮไลต์ในขณะนี้คือ “เที่ยวฟินอินภาคกลาง” เมื่อทุกท่านได้เดินทางไปท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติในมุมต่างๆ เมื่อเข้าพักในโรงแรม รีสอร์ตต่างๆ ในภาคกลาง สามารถนำใบเสร็จมาแลกเสื้อฟรี ผ่านแม็คยีนส์ซึ่งผลิตเสื้อยืดคอกลมให้ ททท.ภาคกลางจังหวัดละ 1,000 ตัว มีการออกแบบเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด รวมทั้งสิ้น 17,000 ตัว ซึ่งถือเป็นการเติมความคุ้มค่าให้การเดินทาง
สำหรับทิศทางการท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ในไตรมาสที่ 1-2 ที่ผ่านมาตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ผ่านมาในไตรมาสที่ 3 จะลดลงมา แต่ชาวไทยยังคงเดินทางท่องเที่ยวเป็นเปอร์เซ็นต์บวกได้อย่างชัดเจน และต้องบอกว่ายอดรายได้ยังสูงมากกว่าจังหวัดอื่นๆ รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% จากเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา ดังนั้น ทิศทางจังหวัดในบุรี ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้ามาทั้งกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี รวมทั้งประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ประกอบกับที่เราบอกว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวธรรมชาติ ทางจังหวัดเหล่านี้มีกิจกรรม และเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติหลายแห่งที่น่าสนใจ
รวมทั้งที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และแหล่งท่องเที่ยวต่างฯ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว อย่างกิจกรรมท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรามีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวใส่ใจในความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น จึงมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกิดขึ้นในแต่ละจังหวัด ซึ่ง ททท.ภาคกลางจะมีการนำเสนอรายละเอียดให้รับทราบต่อไป
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง กล่าวต่ออีกว่า เส้นทางการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทุกภูมิภาคให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวโลว์คาร์บอน คาร์บอนเครดิต ในส่วนประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยุโรป สแกนดิเนเวีย เวลาที่เดินทางท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้สูงมาก ดังนั้น ททท.กับภาคเอกชนจึงต้องจับมือกันในการที่จะผลักดันทุกมิติของการท่องเที่ยว การบริการ ตั้งแต่การเดินทางมาจนถึงวันที่ส่งกลับออกไป ซึ่งต้องมีในมุมของการลดคาร์บอน
รวมทั้งภาชนะต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสิ่งที่ ททท. จัดขึ้นซึ่งต้องขอย้ำว่าเป็นนโยบายที่ชัดเจน กิจกรรมที่จัดขึ้นต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลายกิจกรรมทาง ททท.ยังเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวร่วมทำ CSR กับเราด้วย ถือเป็นนโยบายที่ชัดเจนและทิ้งไม่ได้ ถือเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทาง ททท.จะมีการดำเนินการทำให้เป็นต้นแบบ ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการหลายแหล่งมีการเตรียมความพร้อมหรือได้ทำแล้ว อย่างเช่น กรีนโฮเทลต่างๆ ซึ่งทาง ททท.คงต้องนำร่องและมีการเน้นหนักในเรื่องนี้ รวมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนต้องมาจับมือร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถไฟ เช่น เดินทางด้วยรถไฟมาท่องเที่ยวธรรมชาติที่วนอุทยานปราณบุรี ร่วมปลูกต้นจกทะเล หรือจะเป็นทางรถยนต์ EV ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เราจะมีการรองรับ เช่่่น นจะมีส่วนลดให้กลุ่มเหล่านี้อย่างไรบ้าง อย่างเช่นเมื่อเดินทางมาด้วยรถ EV หรือการลดคาร์บอนต่ำ และเข้าที่พักจะได้รับส่วนลดอย่างไรบ้างหรือการบริการพิเศษเหล่านี้อย่างไร ซึ่งท้ายที่สุดหากผู้ประกอบการในการดำเนินการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทาง ททท. พร้อมที่จะดำเนินการทางการตลาด การโปรโมตประชาสัมพันธ์ต่อไป