สุรินทร์ - เจ้าคณะตำบลฯ พร้อมสำนักพุทธฯ สุรินทร์รุดตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพระวัดป่าชื่อดัง อ.สำโรงทาบ แชตนัดหนุ่มมาตุ๋ยพร้อมคลิปสยิวหลุดฉาวโฉ่กระฉ่อนโลกโซเชียลฯ ขณะญาติโยมแห่ให้กำลังใจพระที่ตกเป็นข่าว โวยอ้างไม่เป็นความจริง พร้อมแจ้งความผู้เผยแพร่
วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางลงพื้นที่วัดป่าศรีราชา ม.8 ต.ประดู่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และวัดหนองดุม ต.ศรีสุข ซึ่งเป็นวัดเจ้าคณะตำบล ดูแลทั้ง 2 วัด หลังจากที่ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่กรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่แชตระหว่างโยมหนุ่มกับพระส่งข้อความทักทายพูดคุยนัดมามีเพศสัมพันธ์กัน พร้อมคลิปภาพสยิว ซึ่งเรื่องดังกล่าว พระที่ถูกกล่าวหา อายุ 34 ปี ชาวบ้านเรียกว่า “พระ บ.” บวชมาตั้งแต่เด็กจำพรรษามาแล้ว 10 ปี ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.สำโรงทาบ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านเดินทางมาร่วมด้วยนั้น
นางมณเฑียร การะเกต อายุ 45 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน กล่าวว่า เรื่องราวที่สื่อทีวีบางช่องได้นำเสนอข่าวออกไปทั้งหมดคลาดเคลื่อนมาก เพราะพระอาจารย์ท่านเป็นพระที่อยู่ในศีลในธรรม ปรากฏว่าได้มีคนไม่หวังดีได้แชตไปทักคุย ตนเองตลอดจนชาวบ้านได้ดูข่าวแล้วเหนื่อยใจกับการนำเสนอข่าวซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ตนอยากให้ทางพระได้ชี้แจงบ้างว่าอะไรคืออะไร เพราะพระถูกนำเสนอแต่ฝ่ายเดียว ซึ่งตนและพี่น้องไม่สบายใจ
อยากให้สื่อแก้ข่าวให้หน่อย
ทั้งนี้ พระที่ถูกกล่าวหาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้มาประมาณ 10 ปีแล้วและเป็นพระลูกวัด แต่ในระหว่างที่หลวงพ่อ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีราชา ได้อาพาธทางวัดจึงให้พระที่ถูกกล่าวหาดูแลวัดทั้งหมด ซึ่งคนที่ให้ข่าวไปบอกว่าเป็นเจ้าอาวาสวัด ทั้งที่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งเลยก็พากันไปลงข่าวครึกโครมว่าเป็นเจ้าอาวาสวัด และนำเสนอข่าวเหมือนกับโจมตีวัดอย่างเดียว จึงอยากให้แก้ข่าวให้ตรงกับข้อเท็จจริงด้วย
"แต่หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมาว่าเป็นความจริง พวกเราชาวบ้านก็ยอมรับ หากว่าเป็นเรื่องจริงก็ว่ากันไปตามความจริง" นางมณเฑียรกล่าว
ทางด้าน นายนนท์ บุญเสริม อายุ 40 ปี ลูกศิษย์พระที่ถูกกล่าวหา บอกว่า การนำเสนอข่าวในครั้งนี้ทำให้พระอาจารย์เสียหาย เพราะที่บอกว่าเรียกหนุ่มในหมู่บ้านมาสักยันต์นั้นความจริงพระไม่ได้สักมานานแล้ว และภาพสยิวที่ลงไปมันก็ไม่ใช่ภาพแชตที่นำมาเสนอ ซึ่งในขณะนี้ทางญาติพี่น้องกำลังปรึกษาหาทนายความมาดำเนินการฟ้องเจ้าของแชตที่ส่งไลน์ให้นักข่าวนำมาเสนอข่าว ซึ่งมันไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ พร้อม พระครูภาตอินุทสร วัดศรีสุวรรณราช เจ้าอาวาสวัดหนองดุม เจ้าคณะตำบลซึ่งดูแลตำบลศรีสุขและตำบลประดู่ ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวฉาวโฉ่ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามแต่ พระครูภาตอินุทสรไม่สะดวกในการให้ข่าวและไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรแต่อย่างใด
ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบในพื้นที่วัดป่าศรีราช พบว่ามีรถยนต์จำนวน 4 คันทยอยขับออกมาจากวัดอย่างรวดเร็วและได้มีชาวบ้านวิ่งเข้าไปภายในกุฏิของพระที่ถูกกล่าวหา เมื่อสอบถามหาพระที่ถูกกล่าวหา ชาวบ้านก็บอกว่าท่านพระอาจารย์มีกิจนิมนต์ไปวัดอื่น
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางออกมาจากวัด ได้ไปสอบถามชาวบ้านว่าผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการวัดไปไหน โดยชาวบ้านบอกว่าผู้ใหญ่บ้านไม่เข้ามาหรอกพร้อมกับอยากให้ผู้ใดที่ตกเป็นข่าวหากทำผิดก็ขอให้ลาสิกขาออกไป ลำพังชาวบ้านก็เหนื่อยใจกับเรื่องนี้มาพอสมควรแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสังเกตการณ์ในวัดครั้งนี้พบว่าบรรดาชาวบ้านญาติโยมที่เดินทางมาให้กำลังใจพระในวัดในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นเครือญาติของพระที่ถูกกล่าวหาทั้งนั้น