ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คณะแพทยศาสตร์ มข.จัดกิจกรรม วันความดันโลหิตสูงโลก ชี้โรคความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบ หากไม่รักษาอาจเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตก หรือตีบ (stroke) หรือมีภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน แนะตรวจวัดความดันโลหิตป้องกันโรคดีที่สุด
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่มุมสร้างสุข อาคารกัลยาณิวัฒนานุสรณ์ (กว.) ชั้น 1 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดกิจกรรมเนื่องในวันความดันโลหิตสูงโลก (World Hypertension Day) โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์ สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธี ท่ามกลางความสนใจของประชาชน
ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ได้เน้นว่า การตรวจวัดความดันโลหิตเป็นการป้องกันโรคที่ดีที่สุด เพราะโรคความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบ หากไม่ตรวจย่อมไม่ทราบและไม่ได้รับการรักษา หากทุกบ้านมีเครื่องวัดความดันโลหิต 1 เครื่อง ใช้วัดความดันทุกคนในบ้าน มีประโยชน์ป้องกันโรคและคุ้มค่าต่อสุขภาพมาก หรือหากไม่มี ถ้าพบจุดวัดความดันโลหิตที่ใด แนะนำให้เข้าไปวัดเพื่อทราบค่าความดันโลหิตของตนเอง
ด้าน รศ.พญ.แพรว โคตรุฉิน อาจารย์แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า วันความดันโลหิตสูงโลกเป็นวันสำคัญสร้างความตระหนักถึงโรคดังกล่าว เนื่องจากพบปัญหาผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการ จึงไม่คิดว่าเป็นโรคสำคัญ ทั้งยังไม่มีการตรวจวัดความดันจึงไม่ทราบความเสี่ยง
สุดท้ายต้องมาพบแพทย์ด้วยภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เกิดเหตุเส้นเลือดในสมองแตก หรือตีบ (stroke) หรือมีภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันที่ทั่วโลกพยายามชักชวนทุกคนมาวัดความดันให้ได้มากที่สุด และให้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคความดันโลหิตสูงให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันมีผู้ป่วยอายุน้อยเป็นโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น บางเคสอายุเพียง 30 ปีก็มีความดันโลหิตสูงแล้ว โดยหาสาเหตุอื่นๆไม่พบ แต่มีปัจจัยเสี่ยง คือมีน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน หรือนอนกรน ซึ่งอาจเกิดจากไลฟ์สไตล์คนปัจจุบันที่สั่งอาหารมารับประทานได้ตลอดเวลา ควบคู่กับการไม่ออกกำลังกาย คือใช้ชีวิตแบบเนือยนิ่ง
“ความดันโลหิตสูงเป็นโรคแห่งความเสื่อมตามเวลา ช่วงแรกอาจไม่เป็นอะไร แต่หลังจากนั้น 10-20 ปีอาจจะเริ่มไตเสื่อม มีโรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคสมอง หรือโรคหัวใจ ซึ่งในอดีตพบผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคนี้ ทำให้ร่างกายและสุขภาพเสื่อมตามวัย แต่ปัจจุบันคนอายุ 30 ปีต้นๆ เริ่มป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง เมื่ออายุ 50 ปีก็จะมีสุขภาพเสื่อมถอย คล้ายคนอายุ 60-70 ปีแล้ว ดังนั้นยิ่งเป็นเร็วยิ่งมีโอกาสที่จะเกิดความเสื่อมของร่างกายตั้งแต่อายุยังไม่มาก บางรายไตวายต้องไปฟอกไตตั้งแต่อายุ 50-60 ปี การใช้ชีวิตก็จะลำบากยิ่งขึ้น” รศ.พญ.แพรวกล่าว
ปัจจุบันโรงพยาบาลศรีนครินทร์มีการพัฒนาและศึกษาแนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีการล่าสุดสำหรับรักษาผู้ป่วยที่รักษาวิธีการอื่นแล้วไม่หาย คือการจี้เส้นประสาทไต เพื่อลดความดันโลหิต (renal nerve denervation) จึงขอฝากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการวัดความดันโลหิต มีเครื่องวัดความดันโลหิต 1 บ้าน 1 เครื่อง และเข้ารับการรักษาอย่างจริงจังเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ทั้งนี้ นอกจากการให้ความรู้ด้านการวัดความดันโลหิตและความสำคัญของโรคแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมาย ทั้งการตรวจคัดกรองวัดความดันโลหิต สาธิตการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การปั๊มหัวใจ การช่วยเหลือผู้อื่นกรณีอาหารติดคอ หรือกิจกรรมเต้นเพื่อสุขภาพ การสาธิตอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
การใช้ยาที่ถูกต้อง การเล่าประสบการณ์ดีๆ ของผู้ป่วยต้นแบบที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีและควบคุมความดันโลหิตได้ พร้อมมีบูทเครื่องวัดความดันโลหิตในโครงการ “หมอห่วงใย” ตรวจวัดเป็นประจำรู้ค่าความดัน ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวาย เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยรับเครื่องวัดความดันได้ฟรี หรือผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเครื่องวัดความดันโลหิตได้