อุบลราชธานี - คดีพบศพหนุ่มขี้ยานอนตายริมถนน ตอนแรกเข้าใจเป็นการยิงกันในกลุ่มคนวงการซื้อขายยาเสพติด ปรากฏคดีพลิกกลายเป็นพ่อแท้ๆ ยิงเอง เหตุแค้นถูกลูกทำร้ายหลายครั้ง
จากกรณีพบศพ นายณัฐวุฒิ สายสุพรรณ อายุ 19 ปี ชาวบ้านอำเภอเหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี ถูกยิงตายใกล้หนองไผ่ หนองน้ำสาธารณะหมู่บ้านหัวเรือทอง หมู่ 16 ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี ทีแรกเข้าใจมือปืนน่าจะเป็นคนวงในการยาเสพติด แต่ตำรวจจับพิรุธพ่อคนตายได้ นำตัวมาสอบเค้น จนยอมรับสารภาพลงมือฆ่าลูกแท้ๆ ด้วยตัวเอง แค้นที่ถูกลูกทำร้ายและเอาแต่ดื่มเหล้า เสพยาเสพติด
พ.ต.ท.ฉลอง อุคะ รอง ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน, พ.ต.ต.กิติพงษ์ สาลีวรรณ สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้เชิญนายจีระชัย สายสุพรรณ อายุ 49 ปี พ่อของคนตายมาสอบปากคำ หลังได้เบาะแสว่าช่วงดึกคืนวันเกิดเหตุ นายจีระชัยได้มาพบกับคนตายเพื่อเอาเงินใช้ซื้อยามาให้ พอช่วงสายของวันนี้ก็พบนายณัฐวุฒินอนตายกลายเป็นศพอยู่ข้างถนนริมหนองน้ำสาธารณะ
หลังเค้นสอบอยู่นานหลายชั่วโมง นายจีระชัยยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนยิงนายณัฐวุฒิลูกชายด้วยตัวเอง พร้อมเล่าถึงสาเหตุที่ตัดสินใจฆ่าลูกของตัวเอง เพราะคนตายไม่ยอมทำงานทำการ เอาแต่กินเหล้าและเสพยา รวมทั้งเมื่อวานก็ได้ลงมือทำร้ายตนเอง โดยใช้เท้าเตะเข้าที่ลำตัวหลายครั้ง ทำให้รู้สึกว่าลูกไม่ได้ดีขึ้นเลย จึงมีความคิดจะฆ่าลูกชาย โดยเตรียมปืนไทยประดิษฐ์ไม่ทราบขนาด แบบบรรจุกระสุนทีละนัดไว้ที่รถ
เมื่อวานช่วงเช้าเอาข้าวไปส่งให้ลูกชาย พร้อมให้เงินไว้ใช้จำนวน 50 บาท จากนั้นช่วงบ่ายลูกชายก็ตั้งวงกินเหล้าเหมือนทุกวัน จนตกดึกก็โทรศัพท์มาขอเงินไปซื้อยามาเสพ โดยให้ตนโอนเงินมาให้ แต่ตนบอกไม่มีเงินโอน จึงนัดให้ลูกมาพบที่ถนนระหว่างบ้านหัวเรือทองไปบ้านนาดี ต.ยางสักกะโพลุ่ม อ.ม่วงสามสิบ ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร
นายจีระชัยกล่าวต่อว่า ลูกเอาเงินไป 500 บาท ไปซื้อยามา 200 บาทแล้วกลับมาหา ก็ชวนตนเข้าไปข้างหนองน้ำเพื่อเสพยา ซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณห้าทุ่มเศษๆ ยังจะบังคับให้ตนร่วมเสพยาด้วย แต่ตนไม่เล่นด้วย พร้อมทั้งเมื่อถามเอาเงินทอน ก็ให้คืนมาแค่ร้อยกว่าบาท ทำให้ตนโมโหตัดสินใจล้วงเอาปืนมาจ่อยิงไปที่ศีรษะของนายณัฐวุฒิ ลูกชาย ครั้งแรกปืนไม่ลั่น แต่ลูกไม่สังเกตว่าตนกำลังจะยิง เพราะมัวแต่เสพยา จึงขึ้นนกปืนตัดสินใจว่าถ้ายิงครั้งนี้แล้วปืนไม่ลั่นอีก ก็จะไม่ทำแล้ว ปรากฏปืนเกิดลั่นถูกลูกชายที่นั่งเสพยาล้มลงไปนอนกับพื้น
หลังก่อเหตุก็รีบหลบออกมาจากที่เกิดเหตุ ขี่รถเอาปืนไปทิ้งลงในหนองมุก หนองน้ำสาธารณะบ้านหัวเรือ ต.หัวเรือ หลังเปิดปากสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายจีระชัย พร้อมนักประดาน้ำของมูลนิธิศิษย์พระอรหันต์จี้กงและมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน ไปงมหาปืนที่ใช้ก่อเหตุ พบเป็นปืนขนาด .38 แบบไทยประดิษฐ์ ยังมีปลอกกระสุนคาอยู่ในรังเพลิง จึงคุมตัวกลับมาดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนเถื่อนไว้ในครอบครอง


