ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฟังอีกมุมมอง! ผู้ประกอบการร้านกัญชาเมืองพัทยามั่นใจรัฐบาลจะไม่ผลักกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดแต่จะมีทางออกที่ดีให้ วอนสายเขียวอย่าเพิ่งวิตกกังวล มั่นใจยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล
จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดึงกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกครั้ง
พร้อมให้เร่งออกกฎกระทรวงเพื่ออนุญาตให้กัญชามีไว้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น และอีกหนึ่งส่วนยังมีไว้เพื่อใช้ในเรื่องการยกระดับประสิทธิภาพการบำบัด
จนทำให้มีประชาชนบางส่วนกังวลว่า หากกัญชาถูกนำกลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5 อีกครั้ง อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมา ทั้งในด้านของผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกัญชานั้น
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวาระ อายุ 36 ปี ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตจำหน่ายพืชกัญชาหลากหลายชนิดอย่างถูกต้องในเมืองพัทยา บอกว่าทางร้านมีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติมากกว่า 80% และโดยมากจะซื้อกัญชาไปเพื่อใช้ในด้านสันทนาการ และยังช่วยให้นอนหลับลึก รวมทั้งยังสามารถทำงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ได้ดีขึ้น ขณะการใช้กัญชาเพื่อการบำบัดสุขภาพนั้นยังมีไม่มากนัก
"ส่วนกรณีที่ภาครัฐมีแนวคิดที่จะนำกัญชากลับเข้าไปอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5 นั้นขณะนี้ยังไม่อยากให้ผู้ประกอบการร้านกัญชาต่างๆ เกิดความตระหนก หรือวิตกกังวลใจจนเกิดเหตุ เพราะยังอยู่ในช่วงของการพิจารณาหารืออยู่เท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะต้องปรับตัวตามข้อกำหนดและการควบคุมของภาครัฐมากขึ้น"
และหากในอนาคตรัฐบาลกำหนดให้มีการใช้กัญชาเฉพาะทางการแพทย์ สถานประกอบการร้านกัญชาอาจจะต้องมีเภสัชกรเฉพาะทางในการขาย ขณะที่ผู้ซื้ออาจจะต้องมีใบอนุญาตผู้ป่วยด้วยเช่นกัน
โดยนายวาระ ยังเชื่ออีกว่าภาครัฐจะหาทางออกให้ผู้ประกอบการในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน เนื่องจากกัญชายังถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและทำรายได้ให้ประเทศค่อนข้างมาก จึงไม่อยากให้ภาครัฐ ปัดตกในเรื่องการค้าขายและจำหน่ายพืชกัญชา
สำหรับในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แล้วถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญและพื้นที่เศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามความเห็นของผู้ประกอบการร้านกัญชาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากเห็นกัญชาถูกขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติดอีก
ขณะเดียวกัน ยังฝากวอนไปยังผู้ประกอบการกัญชาด้วยกันว่า ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของภาครัฐอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องการห้ามจำหน่ายกัญชาให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งสตรีมีครรภ์