ลำพูน - นายตำรวจระดับ “พ.ต.ท.” พนักงานสอบสวนโรงพักในเชียงใหม่ พร้อมพวก แจ้งความต่อ ตร.ลำพูน..ถูกครู กศน.ที่รู้จักมักคุ้นกันมากว่า 10 ปี ชวนลงทุนค้ากำไรทองหลุดจำนำ-ออมทอง ได้คืนไม่กี่รอบ สุดท้ายสูญเงินกันถ้วนหน้ารวมนับล้าน
วันนี้ (12 พ.ค. 67) นายตำรวจระดับพันตำรวจโท (สารวัตรเอ นามสมมติ) พนักงานสอบสวนโรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้เสียหายอีก 4 ราย พากันแจ้งความต่อ ร.ต.ท.หญิง เพ็ญพิชชา เอื้องไพบูลย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน หลังจากถูกครูติ๋ว ซึ่งเป็นครู กศน.สังกัดจังหวัดลำพูน หลอกให้ลงทุนค้ากำไรทองหลุดจำนำ และลงทุนออมทอง จนสูญเงินตนเองและภรรยาจำนวนกว่า 4 แสนบาท หากรวมกับเพื่อนๆ และผู้เสียหายคนอื่นๆ คาดว่ามากกว่า 1 ล้านบาท
สารวัตรเอเล่าว่า ตนเป็นข้าราชการตำรวจและรู้จักมักคุ้นกับครูติ๋ว ซึ่งทำงานเป็นพนักงานราชการ สังกัด กศน.ในพื้นที่จังหวัดลำพูน มานานกว่า 10 ปี ส่วนการร่วมลงทุนเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ครูติ๋วได้ชักชวนตนและภรรยาร่วมลงทุนค้ากำไรจากการไถ่ถอนทองคำหลุดจำนำ โดยชวนนำเงินสดไปซื้อทองคำที่กำลังจะหลุดจำนำเพื่อนำไปขายต่อ
ช่วงแรกๆ เมื่อลงทุนไปหลักหมื่น ใช้เวลาไม่กี่วันก็ได้ทั้งเงินต้นและกำไรโอนคืนมา แล้วก็ชวนลงทุนแบบนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง ก็ได้เงินคืนมาตลอด จนกระทั่งเดือนเมษายนก็จะเว้นระยะการลงทุนจาก 1 สัปดาห์เป็น 10 วันบ้าง 15 วันบ้าง ก็เริ่มเอะใจเพราะยังไม่ได้เงินคืนทั้งต้นทั้งกำไร รวมเป็นเงินร่วม 4 แสนบาท
กระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม 67 ครูติ๋วก็เงียบหายไปขาดการติดต่อ ที่ทำงานก็ไม่ไป พอตามไปถึงบ้านที่ อ.บ้านธิ ก็พบเพียงพ่อและแม่ ส่วนครูติ๋วทราบว่าขนของย้ายหนีไปที่ไหนก็ไม่มีใครทราบ
เมื่อไปสืบข้อมูลพบว่าครูติ๋วมีพฤติการณ์หลอกลวงเหยื่อหลายราย นอกจากชักชวนกลุ่มของตนเองแล้วยังมีผู้เสียหายทั้งคนชรา ข้าราชการเกษียณเกือบทุกวงการ นอกจากนั้นการหลอกลวงยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่นชวนลงทุนออมทอง การแอบอ้างสนิทสนมกับวัดดังหลอกว่าจะเอาพระรอดทองคำไปจำหน่ายเพื่อเก็งกำไรอีกด้วย
“แน่ใจว่าถูกโกงแน่ๆ จึงรวมตัวกันมาแจ้งความ ซึ่งวันนี้มีผู้เสียหายเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เดินทางมาแจ้งความ ยังจะมีทยอยมาอีก เท่าที่ทราบมีมากกว่า 10 ราย มูลค่าความเสียหายคาดว่าน่าจะเกิน 2 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขต้องรอความชัดเจนจากผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออีกครั้งว่ามีผู้เสียหายไปแจ้งความกี่ราย ยอดเงินแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนเป็นล้าน บางคนหลักหมื่น”