ระยอง -เครือข่ายพลังงานสะอาดระยอง ออกแถลงการณ์ร้อง กนอ.หยุดขยายพื้นที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานถึง 2 ครั้งซ้อนในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน ผลกระทบคุณภาพชีวิตและสุขภาพประชาชน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ ( 11 พ.ค.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานคณะกรรมการ กนอ.และที่ปรึกษาประธานกรรมการ กนอ.พร้อมด้วย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) กรรมการ รวมทั้งประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์และกรรมการตรวจสอบ กนอ.ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ระยอง เพื่อติดตามเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี บริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่บนถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา 9นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย
พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านชุมชนหนองแฟบ โดยมี นายอิทธิ แจ่มแจ้ง ประธานชุมชนและชาวบ้าน ร่วมให้ข้อมูล
โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปกป้องแต่ผู้ประกอบการโรงงานจนไม่เคยลงมาดูแลหรือเยียวยาประชาชน อีกทั้งในขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างมีความวิตกกังวลมากว่าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในช่วงกลางเวลาคืนชาวบ้านจะต้องทำเช่น
" วันนี้รู้สึกดีใจมากที่มีสื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวเหตุการณ์เพราะถือเป็นการช่วยสะท้อนเสียงของชาวบ้านให้ กนอ.และผู้รับผิดชอบโรงงานดังกล่าวให้ได้รู้ว่าชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างยากลำบากอย่างไร" ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าว
ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ ประธานคณะกรรมการ กนอ.ได้กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านในพื้นที่ที่ว่าเพราะการเข้าระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ล่าช้าจึงทำให้เพลิงที่ลุกไหม้ถังเก็บสารเคมีปะทุขึ้นเป็นรอบ 2 จนส่งผลกระทบในวงกว้างมากขึ้น ประกอบกับจุดที่เกิดเหตุยังเป็นที่พื้นที่แคบ และไม่ใช่พื้นที่โล่งที่จะสามารถการติดตั้งระบบดับเพลิงได้โดยง่ายนั้น
ในทางเทคนิคแล้วไม่ถือว่าล่าช้าจนเกินไป เพราะเมื่อเกิดการระเบิดจะมีรูเล็กๆเกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ระดมฉีดโฟมและน้ำเพื่อพยายามดับไฟ และเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมเพลิงอย่างเต็มที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว ก็ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนอย่างยิ่งที่มองว่าการเข้าระงับเหตุเป็นไปด้วยความล่าช้า
เครือข่ายพลังงานสะอาด จ.ระยอง ออกแถลงการณ์เรียกร้อง กนอ.หยุดขยายพื้นที่อุตสาหกรรม
ด้าน นายมานพ สนิท ผู้ประสานงานเครือข่ายพลังงานสะอาด จ.ระยอง ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์แนะให้ กนอ. พิจารณาทางด้านวิชาการมลภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชนและสุขภาพประชาชนในพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟไหม้สารเคมีดังนี้คือ
1. กนอ.ทบทวนมาตรการระบบความปลอดภัยและมาตรฐานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
2.ทบทวนแผนการรับมือภัยฉุกเฉิน การเข้าระงับเหตุ การอพยพเคลื่อนย้าย การควบคุมสถานการณ์ และความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์ในการระงับเหตุ
3.ชดเชยเยียวยาชุมชนที่ได้รับผลกระทบให้ทันท่วงที
นอกจากนี้เครือข่ายพลังงานสะอาด จ.ระยอง ยังเรียกร้องให้ กนอ.หยุดการขยายพื้นที่อุตสาหกรรมใน จ .ระยอง และหยุดอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิชุมชน วิถีชีวิต สุขภาพและสิ่งแวดล้อมของคน จ.ระยอง รวมทั้งผลักดันกฎหมาย PRTR( Pollutant Release and transfer Register) เพื่อสิทธิ์ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน.
โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้โรงงาน บริษัท วิน โพรเสส จำกัด อ.บ้านค่าย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ยังเกิดเหตุถังเก็บสารเคมีบริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินัล นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดระเบิดจนเกิดเพลิงลุกไหม้จนส่งผลกระทบต่อชุมชนและประชาชนโดยรอบรัศมีโรงงาน ทำให้ประชาชนเกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และทำลายระบบประสาทส่วนกลาง จนมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
