xs
xsm
sm
md
lg

ญาติสุดเศร้ารับศพสาวท้องแก่ดับพร้อมลูกในท้องจากอุบัติเหตุกระบะชนรถพยาบาล-คปภ.เผยสินไหมเบื้องต้น2.5ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ – ญาติสุดเศร้ารับร่างหญิงสาวท้องแก่ที่เสียชีวิตพร้อมลูกในท้องจากอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนรถพยาบาล นำกลับบ้านที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง เพื่อประกอบพิธีศพ ขณะที่สามียังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ด้าน คปภ.เชียงใหม่ เร่งให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยแก่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เบื้องต้นเฉพาะทายาทหญิงสาวท้องแก่จะได้รับสินไหมทดแทนเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท


ความคืบหน้ากรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ค.67 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนรถพยาบาลของโรงพยาบาลพร้าว บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างรถพยาบาลกำลังนำตัวผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอดไปส่งทำคลอดที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือนางสาวภูษณิศา โกมินทร์ อายุ 26 ปี หญิงสาวท้องแก่ ที่เสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 3 คน เป็นคนขับรถกระบะและผู้ที่โดยสารมาด้วยในรถกระบะ

รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงบ่ายวานนี้(10 พ.ค.67) ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทางญาติของนางสาวภูษณิศา ได้รับร่างของนางสาวภูษณิศา พร้อมลูกชายที่เสียชีวิตในท้อง โดยมีรถของมูลนิธิกู้ภัยกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ นำร่างของทั้งสองเดินทางกลับภูมิลำเนาที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดปงคก อำเภองาว จังหวัดลำปาง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

ส่วนสามีของนางสาวภูษณิศา ที่เดินทางมาด้วยกันในรถพยาบาลที่ประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บนั้น ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยญาติได้แจ้งให้ทราบเรื่องการเสียชีวิตของภรรยาและลูกแล้ว ซึ่งสามีรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก จากการที่ต้องสูญเสียภรรยาและลูกที่ยังไม่ทันได้เห็นหน้า ทั้งนี้คาดว่าสามีอาจจะไม่ได้ไปร่วมงานศพของภรรยา เนื่องจากจำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจนกว่าหายดี


ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัยกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ารถยนต์กระบะมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ.) โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

ขณะที่รถโรงพยาบาลพร้าว มีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ.) โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

นอกจากนี้มีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1) โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 1,000,000 บาทต่อคน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 5,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อรถยนต์ 980,000 บาท รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ 980,000 บาท สำหรับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ร.ย. 01) ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 6 คน ๆ ละ 2,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล (ร.ย. 02) จำนวน 500,000 บาทต่อคน ประกันตัวผู้ขับขี่ (ร.ย. 03) 200,000 บาทต่อครั้ง


สำหรับการติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะนี้ผลคดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นทายาทโดยธรรมของผู้ประสบอุบัติเหตุที่เสียชีวิต จำนวน 4ราย จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย ดังนี้ 1.ผู้ขับขี่รถกระบะมีสิทธิได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ จากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)จำนวน 35,000 บาท, 2. ผู้โดยสารรถกระบะที่เสียชีวิต จำนวน 2 ราย มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 500,000 บาท, 3. ผู้โดยสารรถตู้โรงพยาบาลที่เสียชีวิต จำนวน 1 ราย มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 500,000 บาท และจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1กรณีความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ รายละ 2,000,000 บาท รวมเป็นเงินที่ทายาทจะได้รับรายละ2,500,000 บาท

ขณะที่ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลแม่แตง,โรงพยาบาลพร้าว,โรงพยาบาลสันทราย และโรงพยาบาลนครพิงค์ นั้น สำนักงาน คปภ.จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้าไปอำนวยความสะดวกและรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรง โดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาตามสิทธิแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ประสบภัยหรือผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มีการทำประกันภัยเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยก็จะได้รับสิทธิตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ.










กำลังโหลดความคิดเห็น